KYC หมายถึงอะไรในคริปโตเคอร์เรนซี และการยืนยันตัวตนมีความสำคัญอย่างไรกับคริปโต?
Description
KYC หมายถึงอะไรในคริปโต? กระบวนการดังกล่าวมีความสำคัญอย่างไร? KYC มีผลกระทบต่อการกระจายศูนย์และการไม่เปิดเผยตัวตนของคริปโตเคอร์เรนซีอย่างไร? วิธีการซื้อคริปโตโดยไม่ต้องใช้ ID? ผู้ใช้ควรปฏิบัติตนอย่างไร? เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในบทความของเรา
คริปโตเคอร์เรนซีมีคุณสมบัติที่โดดเด่นข้อหนึ่งนั่นก็คือการไม่เปิดเผยตัวตน คุณลักษณะเด่นเรื่องการไม่เปิดเผยตัวตนของคริปโตเคอร์เรนซีทำให้ผู้ใช้บางรายอาจมีความคิดเกี่ยวกับการใช้คริปโตโดยไม่เจตนา การใช้การยืนยันตัวตนของคริปโดในเรื่องนี้ และการคงไว้ซึ่งผลตอบแทนทางการเงินภายในขอบเขตของกฎหมายคือสิ่งที่จำเป็น!
KYC หรือการยืนยันตัวตนคืออะไร?
KYC (การรู้จักลูกค้าของคุณ) คือการยืนยันตัวตนของผู้ใช้คริปโตเคอร์เรนซีอย่างเป็นทางการ กระบวนการดังกล่าวจะได้รับการร้องขอจากผู้ให้บริการคริปโตซึ่งได้แก่แพลตฟอร์ม แพลตฟอร์มการเทรด และวอลเล็ตสำหรับการจัดเก็บ วัตถุประสงค์หลักของกระบวนการยืนยันคริปโตก็คือการลดแรงกดดันที่มีต่อคริปโตเคอร์เรนซีจากการค้าเงินที่ผิดกฎหมายและการต่อสู้กับการฉ้อโกงในอุตสาหกรรม
กระบวนการ KYC โดยทั่วไปมีอะไรบ้าง?
ตามหลักการนั้น กระบวนการยืนยัน KYC บนแพลตฟอร์มคริปโดหรือวอลเล็ตจะได้รับการเสนอระหว่างการลงทะเบียนผู้ใช้ คุณอาจได้รับการร้องขอให้มอบหลักฐานแสดงตัวตน เช่น ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง บัตรประจำตัวประชาชน บิลค่าสาธารณูปโภค หรือรายงานการเคลื่อนไหวทางบัญชี หรือเอกสารใดก็ได้ที่เชื่อมโยงบัญชีของคุณบนแพลตฟอร์มเข้ากับผู้ซื้อจริง การทำเช่นนี้จะคงไว้ซึ่งการไม่เปิดเผยตัวตนแบบมีเงื่อนไขของบล็อกเชน ไม่มีใครนอกจากแพลตฟอร์มเท่านั้นที่เป็นเจ้าของข้อมูลที่คุณมอบให้ และแพลตฟอร์มจะไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้กับบุคคลอื่น
กระบวนการระบุตัวตน KYC สำหรับคริปโตประกอบไปด้วยสามขั้นตอน:
-
โปรแกรมระบุตัวตนลูกค้า (CIP) นี่เป็นขั้นตอนแรกของการร้องขอและการได้รับข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ใหม่รวมถึงการเก็บรวบรวมข้อมูล
-
การตรวจสอบข้อมูล (การตรวจสอบเพื่อที่จะได้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (DD) นี่เป็นกระบวนการในส่วนของการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับ การตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งข้อมูลและฐานข้อมูลแบบเปิด และการตรวจสอบความน่าเชื่อถือรวมถึงการมีอยู่ของปัญหาการฟอกเงินผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล นี่เป็นวิธีที่แพลตฟอร์มหรือวอลเล็ตใช้ในการปกป้องตัวเองและลูกค้าให้ปลอดภัยตลอดจนป้องกันการแพร่กระจายของสินทรัพย์ที่สกปรกและการฉ้อโกง
-
การยืนยันการตรวจสอบตามมาด้วยการติดตาม หากคุณได้รับการตอบสนองเชิงบวกเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการยืนยันตัวตน (ซึ่งเป็นกรณีส่วนใหญ่) คุณจะสามารถใช้บริการการแลกเปลี่ยนทั้งหมดที่มีอยู่ได้ อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่า การติดตามความชอบธรรมของกระบวนการจะสิ้นสุดลงแล้วในตอนนี้ ไม่ใช่เลยสักนิด แพลตฟอร์มบริการยังคงต้องรับผิดชอบการยืนยันตัวตนของคริปโตเคอร์เรนซีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้บริการของตนเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่ดี
ทำไมถึงต้องมีกระบวนการ KYC สำหรับแพลตฟอร์มคริปโตเคอร์เรนซีส่วนใหญ่?
กระบวนการยืนยันตัวตนของคริปโตหรือ KYC ไม่ใช่ข้อเสียเปรียบของแพลตฟอร์ม แต่เป็นข้อได้เปรียบต่างหากโดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ กระบวนการยืนยันตัวตนของคริปโตเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการหมุนเวียนของสินทรัพย์ดิจิทัลโดยชอบด้วยกฎหมายรวมถึงการใช้คริปโตเคอร์เรนซีตามการกำกับดูแลของประเทศต่างๆ หรืออาจกล่าวได้อย่างง่ายๆ ว่า กระบวนการดังกล่าวเป็นความรับผิดชอบในการใช้คริปโตเคอร์เรนซีและการยืนยันการกระทำของคุณภายในขอบเขตของกฎหมาย KYC จะช่วยให้คุณสามารถป้องกันผลตอบแทนของเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายรวมถึงการฟอกเงินโดยการใช้คริปโตเคอร์เรนซี การระบุการสนับสนุนกิจกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายล่วงหน้ารวมถึงการก่อการร้ายและแหล่งของเงินดังกล่าว KYC สำหรับผู้ใช้จึงเป็นการรับประกันเงินและหลักฐานการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ของผู้ใช้ที่เฉพาะเจาะจง
การซื้อคริปโตโดยไม่ใช้ ID อาจสร้างความเสี่ยงในการลงทุนให้แก่นักลงทุนคริปโตได้ ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ถึงความชอบด้วยกฎหมายรวมถึง “ความบริสุทธิ์” ของเงินดังกล่าวหากไม่มีการยืนยันตัวตน การใช้แพลตฟอร์มซึ่งไม่มี KYC จึงเป็นความเสี่ยงของการลงทุน และชี้ให้เห็นว่าคุณอยากจะอยู่ในพื้นที่สีเทาที่ไม่ได้รับการกำกับดูแลโดยกฎระเบียบที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไป
อะไรคือความแตกต่างระหว่าง KYC กับ AML?
AML เป็นขั้นตอนสำหรับการต่อต้านการฟอกเงิน โดยทั่วไปนั้น KYC มักจะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการดังกล่าว และเป็นเครื่องมือแบบผสมผสานสำหรับการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับ AML
วิธีการยืนยันคริปโตของฉัน?
มีหลายตัวเลือกในการตรวจสอบ “ความบริสุทธิ์” และความชอบด้วยกฎหมายของคริปโตเคอร์เรนซีของคุณในทางกฎหมาย เว็บไซต์ติดตามที่มีความชำนาญเฉพาะทางจะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบสินทรัพย์ที่คุณมีอยู่ในวอลเล็ตของคุณ เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณจะสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการใช้คริปโตเคอร์เรนซีได้ แต่กฎหลักก็คือ สุขอนามัยทางดิจิทัลที่ดี นั่นก็คือการไม่มีผู้แลกเปลี่ยนที่น่าสงสัย การแลกเปลี่ยนที่ไม่มีกระบวนการ KYC การผสมผสานบริการต่างๆ และการทำธุรกรรมแบบไม่เปิดเผยตัวตน
KYC มีผลต่อการกระจายศูนย์และการไม่เปิดเผยตัวตนอย่างไร?
อาจดูเหมือนว่าสำหรับผู้ใช้หลายคนนั้น KYC กับ AML อยู่คนละฝั่งกับการปิดบังตัวตนรวมถึงลักษณะแบบกระจายศูนย์ของบล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซี อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่กรณีสำหรับประเทศไทย แพลตฟอร์มและวอลเล็ตต่างๆ ไม่ได้บันทึกข้อมูลที่ให้ไว้ในบล็อกเชน ไม่ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ หรือมอบข้อมูลของลูกค้าให้แก่บุคคลใด (ยกเว้นตามการร้องขอและการบังคับของกฎหมาย) สำหรับเครือข่ายทั่วไปนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนใน Bitcoin, Ethereum หรือ Solana วอลเล็ตของคุณจะยังคงดูเหมือนปกตินั่นก็คือเป็นแค่ชุดตัวเลขและตัวอักษรซึ่งไม่มีการระบุอะไร การทำเช่นนั้นถือเป็นการรับประกันผลตอบแทนของเงินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในกรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา หรือเชียงใหม่ และการรับประกันการแลกเปลี่ยน
เพื่อให้เข้าใจในเรื่องดังกล่าว เราจะมาเปรียบเทียบเรื่องนี้กับบัตรธนาคาร
ในการได้รับบัตรธนาคาร (ตัวอย่างเช่น การลงทะเบียนบัญชีในประเทศไทย) คุณจะต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณเองและข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ (ผ่านการยืนยันตัวตน) ธนาคารจะไม่เปิดเผยข้อมูลของคุณบนใบเสร็จเมื่อคุณซื้อกาแฟหรือพิซซา ข้อมูลดังกล่าวจะยังคงอยู่ที่ระหว่างคุณกับธนาคารเท่านั้น คุณจึงไม่ต้องกลัวอะไร ว่าแต่คุณกลัวการยืนยันตัวตนบนแพลตฟอร์มหรือเปล่า?
บทสรุป
ไม่ว่าคุณจะมองว่า KYC มีประโยชน์หรือไม่ก็ตาม เรามีคำตอบที่ชัดเจนในเรื่องนี้อยู่แล้วว่า ใช่ การยืนยันตัวตนเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก กระบวนการดังกล่าวเป็นเหมือนกับขอบเขตที่จำกัดการฉ้อโกงจากคริปโตเคอร์เรนซี KYC เป็นกระบวนการที่ดีเพราะการเตือนนั้นย่อมดีกว่าการมาจัดการกับผลที่ตามมาและการกล่าวโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
แพลตฟอร์มที่ใส่ใจลูกค้าก้เปรียบได้กับการ “เชิญตำรวจที่ดี” มาดูแลบริการเนื่องจากแพลตฟอร์มการเทรดต้องรับผิดชอบต่อนักลงทุนเป็นอย่างมากในขณะที่ KYC จะช่วยให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องในสถานการณ์เช่นนี้หรือในสถานการณ์เช่นนั้น
แพลตฟอร์มของ EXEX เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว จึงเสนอให้แก่ลูกค้าทำการยืนยันตัวตนเพื่อความเสถียร ความรับผิดชอบ และความปลอดภัยของบริการจัดเก็บของคริปโตเคอร์เรนซี
