เทคโนโลยีบล็อกเชนคืออะไร?
Description
บล็อกเชนคืออะไร และบล็อกเชนมีความหมายสำคัญอย่างไรกับอุตสาหกรรมคริปโต? บล็อกเชนคริปโตเคอร์เรนซีมีประโยชน์อย่างไร? มาค้นหาคำตอบในเรื่องดังกล่าวไปจากข้อมูลที่เรามีอยู่กัน
คำจำกัดความของเทคโนโลยีบล็อกเชนคือเทคโนโลยีที่จัดเก็บและโอนข้อมูลผ่านการลงทะเบียนการกระจายข้อมูลหรือ DTL นอกจากนี้ เทคโนโลยีบล็อกเชนยังเป็นฐานข้อมูลซึ่งมีคุณสมบัติในเรื่องของความปลอดภัย ความเป็นเอกภาพ และความต่อเนื่องอีกด้วย
วันที่มีการสร้างบล็อกเชนอย่างเป็นทางการคือวันที่ 30 ตุลาคม 2008 เมื่อโปรแกรมเมอร์และผู้สร้าง Bitcoin ชาวญี่ปุ่นกับ Satoshi Nakamoto ได้เผยแพร่โปรโตคอลและหลักการของระบบคริปโตเคอร์เรนซีแรกที่นำมาใช้งานหรือที่เรียกว่า Bitcoin: A Peer-to-Peer Electronic Cash System.
อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนแรกและการสร้างบล็อกเชนนี้ได้มีมาก่อนหน้านี้อีก
เทคโนโลยีบล็อกเชนคืออะไร?
ความหมายของเทคโนโลยีบล็อกเชนมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในการพัฒนาตลาดการเงินในช่วงหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ทุกส่วนของเครือข่ายบล็อกเชนมีความเกี่ยวข้องกับคริปโตเคอรืเรนซี นี่คือเรื่องจริง นี่เป็นเทคดนโลยีชั้นนำสำหรับการโอนเงินสำหรับผู้เข้าร่วมในตลาดคริปโตส่วนใหญ่รวมถึงตัวแทนของผู้เข้าร่วมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้เป็นเพียงอุตสาหกรรมเดียวที่มีการใช้แนวคิดเรื่องบล็อกเชน ในปัจจุบัน เทคโนโลยีบล้อกเชนได้รับการนำมาใช้ในทางการแพทย์ ซัพพลายเชน การจัดเก็บข้อมูลและการส่งมอบ การติดตามและการจัดการสินค้าคงคลัง รวมถึงงานในด้านต่างๆ จำนวนมากเกี่ยวกับมนุษย์
ทำไมบล็อกเชนถึงได้มีความสำคัญ?
บล็อกเชนในคริปโตคืออะไร? บล็อกเชนมีบทบาทเป็นอย่างมากเนื่องจากโอกาสสุดพิเศษที่เทคโนโลยีนี้มอบให้ ดังนั้น คุณภาพหลักของบล็อกเชนที่ควรจะเป็นจึงได้แก่:
- การเปิดกว้างและความโปร่งใสของการทำธุรกรรมทั้งหมด การลงทะเบียนการทำธุรกรรมแบบเปิดกว้างจะช่วยให้ทุกการอัปเดตได้รับการติดตามสำหรับผู้ใช้ในเครือข่ายทุกคนโดยปราศจากข้อยกเว้นใดๆ ทำให้ข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับการโอนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นและมีความโปร่งใสมากขึ้น
- การไม่เปลี่ยนแปลง อีกฟีเจอร์หนึ่งที่สำคัญก็คือความต่อเนื่องและการไม่เปลี่ยนแปลงของข้อมูล แต่ละโหนดของบล็อกเชนจะจัดเก็บและโอนข้อมูลที่เหมือนกันโดยที่จะไม่ทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ
- การกระจายศูนย์ โดยธรรมชาตินั้น บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีอิสระบนพื้นฐานของผู้เข้าร่วมในเครือข่ายจำนวนมาก ยิ่งผู้ใช้บล็อกเชนมีจำนวนมากขึ้น การกระจายศูนย์ก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้ไม่มีศูนย์กลางเพียงศูนย์กลางเดียวในการจัดการและควบคุมกระบวนการ
- ความเร็วของการโอนเงิน บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีสำคัญของคริปโตเคอร์เรนซีเนื่องจากตัวโครงสร้างของบล็อกเชนเอง ผู้ใช้สามารถโอนเงินได้อย่างรวดเร็วและราคาถูกไม่ว่าจะมีระยะทางเท่าใดก็ตาม เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่ที่ระบบการเงินแบบดั้งเดิมไม่สามารถทำให้สำเร็จได้มาเป็นเวลาหลายปี
บล็อกเชนมีความสำคัญอย่างไรต่ออุตสาหกรรมบล็อกเชน?
ในปัจจุบัน บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีศูนย์กลางสำหรับคริปโตเคอร์เรนซีซึ่งได้รับการใช้งานเป็นรากฐานสำหรับการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล การแพร่หลายของเทคโนโลยีนี้เกิดจากการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก เทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถบอกถึงแนวโน้มและความนิยมของเหรียญและโทเคนในขณะที่โทเคนคือคริปโตเคอร์เรนซีของบล็อกเชน
การกระจายศูนย์ของบล็อกเชนสำหรับประเทศไทยคืออะไร?
การกระจายศูนย์ในบล็อกเชนเป็นคุณประโยชน์หลักของสินทรัพยืประเภทนี้ เนื่องจากแรงกดดันเรื่องการกำกับดูแลและการขาดความเชื่อมั่นในสถาบันการเงินและโครงสร้างทางการเงินแบบเดิมๆ การกระจายศูนย์จึงทำให้บล็อกเชนเป็นที่ต้องการมากขึ้น
หากเราพูดถึงการกระจายศูนย์ของบล็อกเชน ฟีเจอร์ดังกล่าวเป็นที่นิยมในประเทศไทย แฟนๆ คริปโตในไทยจากภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ หรือปากเกร็ดล้วนแล้วแต่เป็นผู้เข้าร่วมคนสำคัญในการประชุมที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งผู้เข้าร่วมได้พูดคุยเกี่ยวกับแนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนรวมถึงผลกระทบของการพัฒนาที่มีต่อภาคการเงินของเศรษฐกิจไทย
การทำงานของบล็อกเชน?
เทคโนโลยีบล็อกเชนคืออะไร และมีการทำงานอย่างไร? บล็อกเชนได้รับการแสดงด้วยโซ่ของโหนด (ผู้เข้าร่วมในบล็อกเชน) ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการการจัดเก็บข้อมูลสำหรับเครือข่ายนี้ นี่ไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์เพียงแค่ตัวเดียว แต่เป็น PC อิสระจำนวนมากที่นำมารวมเข้าเป็นโครงข่ายเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ การเปลี่ยนแปลงหรือการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับข้อมูลบนเครือข่ายใดเครือข่ายหนึ่งจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หากไม่มีการสร้างการเปลี่ยนแปลงบน PC อื่นๆ ทั้งหมด
การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่มีต่อบล็อกเชนจะเป็นจริงได้และได้รับการอนุมัติผ่านฉันทามติในขณะที่ข้อตกลงการเปลี่ยนแปลงจะต้องได้รับการอนุมัติจากนักขุดเหมือง
การรวบรวมการเปลี่ยนแปลงและข้อมูลการทำธุรกรรมจะได้รับการสร้างขึ้นเป็นบล็อก (บันทึกการลงทะเบียนที่ได้รับการรวมเข้าด้วยกัน) และได้รับการอนุมัติ/ขุดเหมืองจากนักขุดเหมือง แต่ละบล็อกจะจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดจากการป้อนข้อมูลก่อนหน้าร่วมกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆข้อมูลดังกล่าวจะได้รับการทำซ้ำไปทั่วเครือข่าย การรวบรวมบล็อกต่างๆ จะก่อให้เกิดบล็อกเชน
นักขุดเหมือง (Miner) ในบล็อกเชนคืออะไร?
นักขุดเหมืองของบล็อกเชนเป็นโหนดที่รับผิดชอบการจัดเก็บ การป้องกัน และการยืนยันข้อมูลของบล็อกเชน ไม่มีการจำกัดจำนวนของนักขุดเหมือง เพราะยิ่งมีนักขุดเหมืองจำนวนมากขึ้นเท่าใด เครือข่ายก็จะยิ่งได้รับการกระจายศูนย์มากขึ้นเท่านั้น ผู้เข้าร่วมประเภทนี้จะแข่งขันกันเพื่อแก้ไขปัญหาเชิงคณิตสาสตร์ในการค้นหาบล็อกของบล็อกเชน และจะได้รับรางวัลสำหรับการดำเนินการดังกล่าว
แพลตฟอร์มบล็อกเชนคืออะไร?
ดังที่ได้เขียนไปในข้างต้น บล็อกเชนได้รับการนำมาใช้ในการพัฒนาด้านต่างๆ จำนวนมาก แพลตฟอร์มบล็อกเชนเป็นโซลูชันเทคโนโลยีที่ได้รับการเลือกสำหรับการนำการใช้งานต่างๆ มาใช้อย่างเป็นธรรมชาติ แพลตฟอร์มดังกล่าวอาจจะเป็นระบบนิเวศทั้งหมด การออกโทเคน การใช้งาน DeFi แบบกระจายศูนย์ หรือการแลกเปลี่ยนต่างๆ ในปัจจุบัน แพลตฟอร์มบล็อกเชนจำนวนมากได้มอบเทคโนโลยีให้แก่ผู้พัฒนา ตัวอย่างเช่น Ethereum, Solana, BSC, Cardano ฯลฯ
ประเภทต่างๆ ของบล็อกเชน
แพลตฟอร์มบล็อกเชนจำนวนมากจะได้รับการแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ โดยทั่วไปนั้น แพลตฟอร์มบล็อกเชนจะแบ่งออกเป็นสามประเภท:
- บล็อกเชนแบบเปิดกว้าง (สามารถใช้รหัสต้นฉบับสำหรับการพัฒนาในขณะที่การทำธุรกรรมจะเปิดกว้างต่อสาธารณะในส่วนของการติดตาม)
- บล็อกเชนส่วนตัว (ใช้เพื่อการพัฒนาส่วนบุคคลโดยบริษัทใดบริษัทหนึ่งหรือหลายบริษัทรวมถึงการแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคน)
- บล็อกเชนของรัฐบาล (สำหรับการสร้างโปรเจ็กต์และอุตสาหกรรมการแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคนในระดับประเทศ)
บทสรุป
เทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นพื้นฐานของการพัฒนาอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมด อีกทั้งยังเป็นกุญแจสำคัญไปสู่การเติบโตและความเจริญรุ่งเรือง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การใช้บล็อกเชนและฟีเจอร์ต่างๆ ของบล็อกเชนช่วยให้สินทรัพย์ดิจิทัลแสดงให้เห็นถึงคุณประโยชน์ในข้อนี้ตลอดจนพัฒนาไอเดียเรื่องอิสรภาพของคริปโตเคอร์เรนซีแสดงแ
EXEX สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน และมอบจำนวนผลิตภัณฑ์สูงสุดซึ่งได้รับการสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนให้แก่ผู้ใช้ ยิ่งผู้ใช้มากขึ้นเท่าใด ฐานการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่าบล็อกเชนก็จะยิ่งแพร่หลายออกไปมากยิ่งขึ้น
