Polkadot (DOT) คืออะไร?
Description
Polkadot เป็นเครือข่ายมัลติเชนที่เชื่อมต่อบล็อกเชนเพื่อให้บล็อกเชนสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ Polkadot (DOT) เป็นคริปโตเคอร์เรนซีของ Polkadot
ไอเดียของโปรเจ็กต์นี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2016 เมื่อ Gavin Wood ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค และหัวหน้าทีมผู้พัฒนาของ Ethereum ได้ลาออกจากบริษัทโดยให้เหตุผลว่า Ether ไม่ได้เป็นไปตามความคาดหวังของเขา
ในการดำเนินการโปรเจ็กต์ใหม่นั้น Wood ได้ทำงานร่วมกับ Marek Kotewicz ซึ่งเป็นผู้พัฒนาที่มีชื่อเสียงในการปรับปรุงและปรับอัลกอริทึมของ Ethereum ให้เรียบง่ายมากขึ้น ในปีเดียวกันคือปี 2016 ทั้งสองคนได้นำเสนอเวอร์ชันฉบับร่างของ White Paper (เอกสารหลักของโปรเจ็กต์) ของ Polkadot ให้แก่ชุมชนคริปโต Wood ซึ่งเคยทำงานกับ Ether มาก่อนได้ปรับปรุงการทำงานของคริปโตเคอร์เรนซีนี้ให้มีความทันสมัย และได้สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไม่เหมือนใคร
ในปี 2017 ผู้พัฒนาอย่าง Peter Czaban ได้เข้าร่วมในทีมในขณะที่ Robert Habermeier นักวิจัยและผู้พัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนซึ่ง Wood เลือกให้มาทำงานด้วยคืออีกหนึ่งคนที่มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากในการสร้างและแก้ไขจุดบกพร่องของ Polkadot
Czaban กับ Wood ได้ก่อตั้ง Web3 Foundation ขึ้นในปี 2017 โดยมีภารกิจหลักคือการส่งเสริมการพัฒนาโปรโตคอล แอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์อื่นๆ สำหรับอินเทอร์เน็ตแบบกระจายศูนย์ (Web3 Proper) ในส่วนนี้ Web3 Foundation ได้รับการควบคุมดูแลโดย Parity Technologies ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ Wood และเพื่อนร่วมงานได้ก่อตั้งขึ้นเช่นกันในตอนที่ยังทำงานกับ Ethereum อยู่ อดีตผู้อำนวยการของ Ether คู่ควรกับคำชื่นชมไม่ใช่เพียงเพราะ Wood มีความอัจฉริยะเรื่องการพัฒนาเท่านั้น แต่เขายังมองการณ์ไกลและตัดสินใจเรื่องการจัดการในระดับสูงได้ดีเยี่ยมอีกด้วย
ในปีที่ 17 Web3 Foundation ได้เสนอขายโทเคน Polkadot (DOT) ให้แก่นักลงทุนเป็นครั้งแรก โทเคนทั้งหมดซึ่งวางขายอยู่ที่ 5 ล้าน (จาก 10 ล้าน) ขายหมดภายในสองวัน Web3 Foundation ได้เงิน $145 ล้านจากการขายโทเคนในครั้งนี้ซึ่งถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่น่าประทับใจตามมาตรฐาน ICO (การเสนอขายโทเคนครั้งแรก)
ในปี 2019-2020 Web3 Foundation ได้ขายโทเคนอีก 500,000 DOT และได้รับเงินอีก $45 ล้านจากการขายโทเคนส่วนตัวเพื่อนำเงินมาใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยี Polkadot จากการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญจึงคาดการว่า มูลค่าตามราคาตลาดของโปรเจ็กต์นี้น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น $1.2 พันล้าน
ในปี 2020 ได้มีการเปิดตัวเวอร์ชันแรกของเครือข่าย Polkadot โดยใช้รีเลย์เชน (Relay Chain) ของบล็อกต้นกำเนิด (บัฟเฟอร์เครือข่ายหลักประเภทหนึ่งซึ่งประมวลผลข้อมูลจากบล็อกเชนต่างๆ)
เดือนธันวาคม 2021 คือช่วงเวลาที่มีการเปิดตัวพาราเชน (Parachain) หรือบล็อกเชนคู่ขนานสำหรับบล็อกต้นกำเนิดหลัก สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ จำนวนสุดท้ายของพาราเชน (ในช่วงเวลานี้ของโปรเจ็กต์) ถูกจำกัดอยู่และจะได้รับการประมูลโดยผู้สร้างมัลติเชน Polkadot เมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกบล็อกเชนจะสามารถรวมเข้ากับเครือข่ายของ Polkadot และทำงานข้ามแพลตฟอร์มกับบล็อกเชนอื่นๆ ที่ซื้อพื้นที่ในเครือข่ายของ Polkadot ในฐานะที่เป็น พาราเชนได้
ปี 2022 เป็นปีที่ Polkadot ได้วางแผนงานเอาไว้สำหรับการอัปเดตและการเพิ่มประสิทธิภาพ ดังนั้น เราจึงอยู่ในจุดแรกที่สามารถมองเห็นการออกแบบ การพัฒนา และการเกิดขึ้นของผลิตภัณฑ์สุดพิเศษที่ผสานเทคโนโลยีบล็อกเชนและการสร้างอินเทอร์เน็ตแบบกระจายศูนย์
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ!
ผู้สร้าง Polkadot กล่าวว่า ได้มีการออกโทเคน DOT ทั้งหมดจำนวน 10 ล้านเหรียญซึ่งเหลืออยู่ครึ่งหนึ่งในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของ ICO อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาได้มีการแก้ข้อมูลดังกล่าวว่า ไม่มีข้อมูลเรื่องการจำกัดการออกโทเคน นักวิเคราะห์บางรายมองว่า ในสถานการณ์เช่นนั้น มีความเสี่ยงเรื่องการเฟ้อของโทเคนหลักหากบริษัทเริ่มออกโทเคนใหม่จำนวนมากโดยปราศจากการควบคุม ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม Polkadot ไม่ได้ออกเหรียญใหม่อีกเลย แถมบริษัทยังได้กำหนดเหรียญใหม่โดยการแบ่งแต่ละเหรียญให้ออกเป็น 100 เหรียญอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ โทเคน DOT จำนวน 1 พันล้านเหรียญจึงมีลักษณะของคริปโต ผู้ถือเหรียญ นักลงทุน หรือเทรดเดอร์ไม่ได้สูญเสียอะไรเลยเพราะมูลค่าที่กำหนดไว้ของโทเคนใหม่มีมูลค่าเท่ากับ 0.01 ของโทเคนเก่า ความแตกต่างเดียวก็คือ มีโทเคนมากขึ้นโดยที่ไม่มีผู้ใดเสียผลประโยชน์ และนั่นคือสิ่งที่มาจากความคิดของ Gavin Wood
ข้อดีของ Polkadot
โปรเจ็กต์ Polkadot เป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่มีความล้ำสมัยมากที่สุดในอุตสาหกรรมบล็อกเชนในช่วงหลายปีมานี้ ในการสร้างความคิดเห็นเกี่ยวกับการดึงดูดการลงทุน เราจึงได้สรุปคุณลักษณะเด่นและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการพัฒนาโปรเจ็กต์นี้ให้คุณ:
- Polkadot เป็นระบบแรกที่อนุญาตให้มีการสร้างเครือข่ายบล็อกเชนอิสระ (พาราเชน) โดยที่พาราเชนสามารถออกโทเคนของตัวเองรวมถึงมีการทำงานที่แตกต่างไปจาก Polkadot ได้ นอกจากนี้ พาราเชนยังสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันผ่าน Polkadot เพื่อให้เข้าใจถึงตรรกะการทำงานของโปรเจ็กต์นี้ คุณจะต้องเปรียบเทียบการพัฒนาของโปรเจ็กต์นี้กับการพัฒนาอินเทอร์เน็ตในทศวรรษ 80 ของศตวรรษที่ 20 ในอดีตนั้น คอมพิวเตอร์ทั่วโลกไม่สามารถสื่อสารซึ่งกันและกันได้ยกเว้นเมื่อมีการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายขนาดเล็ก ในศตวรรษที่ 21 มีสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันกับโปรเจ็กต์บล็อกเชนต่างๆ (เช่น Bitcoin, Ethereum, Solana, Polygon, Decentraland ฯลฯ) เมื่อโปรเจ็กต์ต่างๆ อยู่ได้ด้วยตัวเอง และไม่แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน Polkadot จึงได้แก้ไขปัญหานี้!
- แพลตฟอร์มนี้ดึงดูดนักลงทุนเหมือนกับแม่เหล็ก ตัวอย่างเช่น ทุกคนสามารถมีพาราเชน (พื้นที่) บนเครือข่ายได้หลังจากชนะการประมูล ดังนั้น โปรเจ็กต์บล็อกเชนที่มีความมั่นใจและมีความก้าวหน้าด้านเทคนิคสูงสุดต่างๆ จึงสามารถซื้อที่นั่งของ Polkadot และเข้าร่วมในสิ่งที่เรียกว่า “อินเทอร์เน็ตของบล็อกเชน” ได้
- โปรเจ็กต์นี้ได้รับการดำเนินการในลักษณะข้างต้น กล่าวคือ โปรเจ็กต์นี้มีเครือข่ายการทดสอบ Kusama ซึ่งมีการทำงานที่คล้ายคลึงกันเป็นของตัวเอง ก่อนที่จะมีการใช้การเปลี่ยนแปลงและการปรับปรุงกับเครือข่ายหลักของ Polkadot การเปลี่ยนแปลงและการปรับปรุงดังกล่าวได้รับการทดสอบใน Kusama เรียบร้อยแล้ว ในขณะนี้สิ่งที่แตกต่างไปจากเครือข่ายทดสอบก็คือผู้ใช้สามารถเช่าพื้นที่ของพาราเชนได้นาน 48 สัปดาห์ ส่วนบนเครือข่ายหลักนั้น ระยะเวลาดังกล่าวจะอยู่ที่ 96 สัปดาห์
- นักวิเคราะห์การเงินยอมรับว่าอัลท์คอยน์ DOT จะแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 ในขณะที่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โทเคนนี้จะขึ้นถึงจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ $70 ต่อ DOT พร้อมด้วยการพุ่งทะลักที่ตามมาที่มากกว่า $100
- โทเคนของ DOT ไม่ได้แค่ได้รับการนำมาใช้ในการชำระเงินหรือการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์เท่านั้น แต่ยังให้ประโยชน์ที่ดีเยี่ยม 3 ประการแก่ผู้ถือเช่นกัน กล่าวคือ a. ความสามารถในการจัดการโปรเจ็กต์ตามปริมาณของโทเคนที่ถือโดยผู้ถือ b. ความเป็นไปได้ในการสะสมคริปโตเคอร์เรนซี DOT ในวอลเล็ตออนไลน์ซึ่งถือเป็นพาสซีฟอินคัม (Passive Income) ประเภทหนึ่งซึ่งเหมือนกับการฝากเงินกับธนาคาร แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือ ดอกเบี้ยของคริปโตนั้นสูงกว่ามาก c. ความสามารถในการแช่แข็งสินทรัพย์ที่มีอยู่ (“การบอนดิ้ง (Bonding)” DOT) ในการแลกเปลี่ยนสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น การเช่าพื้นที่ของพาราเชนหรือการเชื่อมต่อตัวเชื่อมโยง
- “การเชื่อมโยง” ตัวเองเป็นการพัฒนาแบบมีกรรมสิทธิ์ของบริษัทเพื่อให้พาราเชนสามารถสื่อสารกับ บล็อกเชนภายนอกซึ่งอยู่นอกเครือข่าย Polkadot ได้
คริปโตเคอร์เรนซี Polkadot (DOT)
ดังที่ได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่า คริปโตเคอร์เรนซีของเครือข่าย Polkadot เกิดขึ้นในปี 2017 และเริ่มมีการเทรดเหรียญดังกล่าวในเดือนสิงหาคม 2020 ในขณะนั้นอัตราของเหรียญนี้อยู่ที่จุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $2.69 ต่อ DOT เช่นเดียวกับเหรียญอื่นๆ Altcoin จาก Polkadot เองก็มีราคาสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 2021 อยู่ที่ $55 ต่อ DOT เช่นกัน ในปัจจุบัน (เดือนมกราคม 2022) 1 DOT มีมูลค่าอยู่ที่ $27.67 การตกลงของอัตราของเหรียญจากมูลค่าสูงสุดเกิดขึ้นพร้อมกับการทรุดตัวของตลาดคริปโตทั้งหมด อัตราที่คาดการสำหรับกลางฤดูใบไม้ผลิ 2022 อยู่ที่ $17-19 ต่อ DOT ลักษณะที่เป็นคลื่นของราคาแสดงให้เห็นถึงการเติบโตและขอบเขตใหม่เมื่อสิ้นสุดปี
ในขณะนี้ DOT อยู่ในอันดับ 10 ของคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดของโลก และมี DOT จำนวนมากกว่า 10,000 ที่มูลค่าตลาด $27.3 พันล้าน
บทสรุป
Polkadot เป็นโปรเจ็กต์ใหม่ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาการขยายเครือข่ายโดยการผสมผสานบล็อกเชนของบริษัทอื่นเพื่อการทำงานร่วมกัน Polkadot Empire ซึ่งกำลังได้รับการก่อสร้างอยู่ภายใต้การนำของ Gavin Wood ผู้พัฒนาบล็อกเชนที่ชาญฉลาดและกล้าได้กล้าเสียซึ่งเป็นผู้บุกเบิก Ethereum และยกระดับบล็อกเชนนี้ให้มีความโดดเด่น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนรวมถึงผู้สร้าง Polkadot เรียกมัลติเชนของพวกเขาว่า “อนาคตแบบกระจายศูนย์ของอินเทอร์เน็ต”
เส้นทางนับจากแบบร่างบนกระดาษไปจนถึงการทำงานจริงของเครือข่ายบล็อกเชน Polkadot ใช้เวลา 4 ปี และได้รับการเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบในปี 2020 อัลท์คอยน์ Polkadot (DOT) ได้รับการเทรดบนตลาดแลกเปลี่ยนแค่หนึ่งปีครึ่ง (นับจากเดือนสิงหาคม 2020) แต่ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของคริปโตเคอร์เรนซีโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว EXEX ได้มอบโอกาสให้แก่ลูกค้าในการเทรดคริปโตเคอร์เรนซีนี้ในสภาวะตลาดที่ดีที่สุดซึ่งได้แก่เลเวอเรจในระดับสูง ระบบการปกป้องเงินฝากโดยอัตโนมัติ รวมถึงอินเตอร์เฟสแพลตฟอร์มที่โดดเด่นสำหรับการดำเนินการโดยใช้กรอบเวลาที่น้อยมากสำหรับมัลติเชนและโทเคน DOT
