โทเคน เหรียญ สเตเบิลคอยน์ อัลท์คอยน์คืออะไรและแตกต่างกันอย่างไร?

Description

อัลท์คอยน์ เหรียญ โทเคน หรือสเตเบิลคอยน์คืออะไร? ในบทความนี้ เราจะพูดถึงเกี่ยวกับความแตกต่างหลักของทั้งสี่อย่างนี้กัน

อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก นับจากปี 2008 ที่ Satoshi Nakamoto ได้แนะนำให้โลกได้รู้จักกับคริปโตเคอร์เรนซีตัวแรกของโลกคือ Bitcoin Electronic Cash System จำนวนของโปรเจ็กต์ใหม่ก็ได้เกิดขึ้นอีกหลายหมื่นโปรเจ็กต์ แค่ในปี 2023 ปีเดียว มีคริปโตเคอร์เรนซีที่ได้รับการจัดอันดับอย่างเป็นทางการใน Coinmarketcap มากกว่า 22,000 รายการ จำนวนของคริปโตเคอร์เรนซียังคงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน จนทำให้เราหลงทางในความหลากหลายของเรื่องดังกล่าว ในกรณีนี้ สำหรับหลายคนแล้ว เรื่องนี้ยังคงเป็นปริศนา นั่นก็คือ วิธีการแยกความแตกต่างระหว่างโคเคน เหรียญ สเตเบิลคอยน์ และอัลท์คอยน์ เราจึงได้นำเสนอหัวข้อนี้สำหรับคุณ

อะไรคือคำจำกัดความของอัลท์คอยน์ (Altcoin)?

Bitcoin หรือ BTC เป็นคริปโตเคอร์เรนซีตัวแรกที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน อีกทั้งยังถือว่าเป็นทองคำและโปรเจ็กต์บรรพชนของโปรเจ็กต์อื่นๆ ทั้งหมดในอุตสาหกรรมคริปโต คริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดที่ได้รับการเปิดตัวหลังจาก BTC จะถือว่าเป็นเหรียญทางเลือกหรืออัลท์คอยน์ (จากทางเลือกและเหรียญของโลก) ด้วยเหตุนี้ คำจำกัดความของอัลท์คอยน์จึงน่าจะเป็นคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดที่มีอยู่ในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลยกเว้น Bitcoin

ถ้าเช่นนั้นแล้ว อัลท์คอยน์คืออะไร? ความหมายและประวัติความเป็นมาของอัลท์คอยน์? เราจะมาดูคำจำกัดความของอัลท์คอยน์กันก่อน อัลท์คอยน์สามารถอยู่ในรูปแบบของโปรเจ็กต์สกุลเงินดิจิทัลใหม่ทั้งหมด หรือสามารถยกระดับลักษณะการเป็นแหล่งเปิดของโครงการอื่นๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นฐานของอัลท์คอยจะทำให้เกิดนโยบายทางการเงินต่างๆ ที่ส่งเสริมการใช้งานหรือการจัดการต่างๆ เช่น การใช้ค่าใช้จ่ายต่ำสุด ดอกเบี้ยเขิงบวกหรือดอกเบี้ยเชิงลบของโฮลดิ้ง หรือแม้แต่กรณีการเปลี่ยนแปลงของการขุดเหมืองซึ่งเป็นวิธีการใหม่ในการเข้าสู่ระบบการเงินของคริปโตเคอร์เรนซี ในช่วงเวลาเกือบสามปี (ปี 2008 ถึงปี 2011) ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดมีแค่ Bitcoin เท่านั้น แต่ในในปี 2011 ก็ได้ปรากฏอัลท์คอยน์ตัวแรกขึ้นนั่นก็คือ NMC (Namecoin) ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์การกระจายชื่อโดเมนดิจิทัล การซื้อและการขายอัลท์คอยน์ที่พบได้มากที่สุดก็คือ Ethereum ซึ่งเป็นคริปโตเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสอง

อัลท์คอยน์สำหรับตลาดในปัจจุบันเป็นอย่างไร? ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม นั่นก็คือ การแก้ไขปัญหาทางเทคนิคและเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมทนี้ ในตอนแรกนั้น การเกิด Bitcoin และอัลท์คอยน์มาจากความไม่สมบูรณ์แบบของคริปโตเคอร์เรนซีตัวแรก ผู้พัฒนาเล็งเห็นถึงความจำเป็นของโซลูชันที่ทันสมัยและราคาถูกมากขึ้น เป็นที่เข้าใจกันดีว่า Bitcoin เป็นสิ่งที่สะดวกสำหรับเศรษฐกิจของบริษัทแค่ในบางครั้งเท่านั้น นี่เองคือเหตุผลที่ทำให้เกิดอัลท์คอยน์ขึ้นเพราะอัลท์คอยน์สามารถแก้ปัญหาที่ยุ่งยากต่างๆ ได้ในขณะที่ Bitcoin ไม่สามารถทำได้ เช่น:

• การสร้างเศรษฐกิจของโปรเจ็กต์โดยใช้สัญญาอัตโนมัติ (สัญญาอัจฉริยะ)
• การลดต้นทุนการขุดเหมือง PoW ที่ราคาแพง
• การปรับปรุงการเพิ่มขนาดและความเร็วของการทำธุรกรรมระหว่างวอลเล็ต
• การเพิ่มระดับของการปกปิดตัวตนของเครือข่าย
• การทำงานที่จำกัดของ Bitcoin
• การขยายการเซ็นเซอร์ทางการเงินภายในระบบการเมืองระหว่างประเทศของประเทศไทย
• การพัฒนาทุกภูมิภาคของประเทศไทยในอุตสาหกรรมคริปโต

โทเคน (Token) คืออะไร? ตัวอย่างของโทเคนที่ได้รับความนิยม

สิ่งที่สำคัญที่สุดของผู้เข้าร่วมในอุตสาหกรรมคริปโตก็คือบล็อกเชน หากไม่มีฟีเจอร์สุดพิเศษนี้ก็จะไม่สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในระบบนิเวศทางการเงินซึ่งในปัจจุบันมีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ได้ โดยทั่วไปนั้น โทเคนเป็นหนังสือรับรองดิจิทัลที่ได้รับการกำหนดในบล็อกเชนและไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงได้ อย่างไรก็ตาม อีกความแตกต่างหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับโทเคนก็คือ โทเคนจะไม่มีบล็อกเชนเป็นของตัวเอง โดยทั่วไปนั้น โทเคนจะหมายถึงสกุลเงินที่ได้รับการพัฒนาขึ้นบนบล็อกเชนของบุคคลภายนอก เหล่านี้คือเหรียญที่มีความเสถียรมากที่สุด นั่นก็คือ โทเคนของโปรเจ็กต์ DeFi, DAOs และการแลกเปลี่ยนต่างๆ

ตัวอย่างเช่น Tether (USDT), Polygon (MATIC), Dai (DAI), Uniswap (UNI) และ Wrapped Bitcoin (WBTC) คือโทเคน โทเคนทั้งหมดดังกล่าวได้รับการสร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนของบุคคลภายนอกของคริปโตเคอร์เรนซี Ethereum หากเราพิจารณาระหว่างโทเคนกับอัลท์คอยน์ เราก็อาจจะหล่าวได้ว่า โทเคนถือเป็นส่วนหนึ่งของอัลท์คอยน์

ความหมายของโทเคนสำหรับตลาดคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดนั้นยอดเยี่ยมมาก โทเคนทำหน้าที่สำคัญในการเข้าถึงการทำให้เป็นดิจิทัลสำหรับผู้คน บริษัท และประเทศต่างๆ

สมมติว่าคุณอยากจะเปิดตัวคริปโตเคอร์เรนซีของคุณ ในการทำเช่นนั้น คุณจะต้องจ้างทีมงานขนาดใหญ่ และใช้เวลารวมถึงต้นทุนทางการเงินจำนวนมากในการพัฒนาบล็อกเชน

การใช้โทเคนจะช่วยให้คุณสามารถทำเช่นนั้นได้โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนมากนัก คุณสามารถออกโทเคนให้โปรเจ็กต์ใดก็ได้ แม้แต่ผู้ที่ไม่มีความรู้ทางเทคนิคเลยก็สามารถออกโทเคนได้เช่นกัน

เหรียญ (Coin) คืออะไร? อะไรคือความแตกต่างระหว่างเหรียญกับโทเคน?

เหรียญหรือคริปโตเคอร์เรนซีคือสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่งที่ได้รับการสร้างขึ้นบนบล็อกเชนของตัวเอง สิ่งที่แตกต่างไปจากโทเคนซึ่งใช้บล็อกเชนของบุคคลภายนอกตามมาตรฐานของแต่ละโปรเจ็กต์ก็คือ เหรียญจะเป็นเหรียญของบล็อกเชนอิสระ ตัวอย่างของคริปโตเคอร์เรนซีของเครือข่ายบล็อกเชนที่รู้จักกันดีอย่าง Ethereum และเหรียญของบล็อกเชน Ethereum (ETH), TRON และเหรียญ TRON (TRX), Binance Smart Chain และเหรียญ BNB

เหล่านี้คือโปรเจ็กต์ที่ไม่ได้ให้แค่โทเคนสำหรับธุรกิจของบริษัทเท่านั้น แต่ยังได้สร้างระบบนิเวศของคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยน วอลเล็ต ระบบวิเคราะห์การทำธุรกรรม หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นอื่นๆ

สเตเบิลคอยน์คืออะไร? ประเภทที่ได้รับความนิยมและอัตราของสเตเบิลคอยน์?

สเตเบิลคอยน์เป็นเหรียญที่อัตราการแลกเปลี่ยนจะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของราคาขั้นต่ำ และจะต้องมีความเสถียรอยู่ตลอดเวลา สเตเบิลคอยน์จึงมักจะผูกติดอยู่กับสกุลเงินเฟียตซึ่งถือเป็นตะกร้าของคริปโตเคอร์เรนซี ไม่บ่อยครั้งนักที่สเตเบิลคอยน์จะได้รับการหนุนหลังจากสินทรัพย์ที่สามารถจับต้องได้อย่างทองคำ เงิน แร่ธาตุต่างๆ ฯลฯ

เหตุผลหลักสำหรับการเกิดสเตเบิลคอยน์ก็คือความจำเป็นในการใช้สินทรัพย์ที่มีอัตราการแลกเปลี่ยนคงที่เมื่อต้องซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีที่มีความผันผวน สเตเบิลคอยน์จะช่วยให้การทำบัญชีดิจิทัลและการคำนวณมูลค่าของสินทรัพย์บางประเภทบนแพลตฟอร์มคริปโตเคอร์เรนซีตามประกาศในเวลานั้นๆ เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ประเภทของสเตเบิลคอยน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ เหรียญที่ผูกติดกับสกุลเงินเฟียตอย่างดอลลาร์สหรัฐหรือยูโร อัตราการแลกเปลี่ยนจะอยู่ที่ 1 ดอลลาร์หรือ 1 ยูโร ทำให้การใช้สเตเบิลคอยน์มีราคาไม่สูงมาก USDT ถือเป็นคริปโตที่มีความเสถียรมากที่สุด อย่างไรก็ตาม มูลค่าของสเตเบิลคอยน์อาจจะลดลงได้ในบางครั้ง

สเตเบิลคอยน์ค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องใหม่สำหรับตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในขณะที่สเตเบิลคอยน์แต่ละประเภทจะมีความเฉพาะ สภาพคล่อง ความเสี่ยง และระดับการกระจายตัวที่เป็นของตัวเอง

ในปัจจุบัน สเตเบิลคอยน์จำนวนมากมีมูลค่าการตลาดทั้งหมดอยู่ที่มากกว่า $137 พันล้าน สเตเบิลคอยน์ที่ดีที่สุดได้แก่ Tether (USDC), USDC, Binance USD (BUSD), DAI, TrueUSD, USDD, Pax Dollar ฯลฯ คริปโตที่มีความเสถียรมากที่สุดและในขณะเดียวกันก็เป็นสเตเบิลคอยน์ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดก็คือ Tether (USDT) ทั้งนี้ USDT มีมูลค่าการตลาดที่ $66,916,184,809 และถือเป็นคริปโตเคอร์เรนซีที่มีความเสถียรมากที่สุด และเป็นสเตเบิลคอยน์ที่ได้รับการใช้งานมากที่สุดเช่นกัน อัตราดอกเบี้ยของสเตเบิลคอยน์นี้จะได้รับการเชื่อมโยงเข้ากับ USD

ตัวอย่างเช่น เป็นเรื่องที่สะดวกสำหรับนักลงทุนเอกชนในกรุงเทพฯ ในการส่งเงินถึงกัน เช่น จากพัทยาไปปากเกร็ด หรือสามารถใช้วิธีการดังกล่าวเป็นการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ทั่วประเทศ เช่น การชำระเงินระหว่างประเทศหรือการชำระเงินระหว่างรัฐบาลในหาดใหญ่ เชียงใหม่ ภูเก็ต หรือกระบี่

ความแตกต่างหลักของสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทต่างๆ ของโทเคน เหรียญและสเตเบิลคอยน์?

ความแตกต่างหลักระหว่างอัลท์คอยน์กับสเตเบิลคอยน์จะอยู่ที่วัตถุประสงค์และฟังก์ชันการทำงาน อัลท์คอยน์จะขึ้นอยู่กับความผันผวนของเราคาในขณะที่สเตเบิลคอยน์จะให้ความเสถียรที่มากกว่า พึงสังเกตว่า สเตเบิลคอยน์จะมีเงินสดสำรองอยู่จำนวนหนึ่ง เราจะมาดูกันที่ตัวอย่างของสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ที่ได้รับการสร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum เดียวกัน เช่น Ethereum (ETH) เป็นคริปโตเคอร์เรนซีทึ่มีขนาดใหญ้มากทึ่สุดเป็นอันดับสองของโลก

อัลท์คอยน์ของโทเคนจำนวนมากได้รับการสร้างขึ้นบนบล็อกเชนซึ่งใช้สำหรับโปรเจ็กต์ต่างๆ นอกเหนือจากสิ่งที่กล่าวถึงไปในข้างต้นแล้วก็ยังมีโทเคนของ Metaverse กับ NFT, Sandbox SAND, Decentraland MANA, Axie Infinity AXS, ApeCoin APE, Stablecoin TrueUSD TUSD, Pax Dollar USDP และโทเคนของบริษัทอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมากเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดของประเทศไทย ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด บุคคลหรือบริษัทสามารถเลือกรูปแบบที่เหมาะสมของสกุลเงินดิจิทัล และสร้างคริปโตเคอร์เรนซีหรือโทเคนของตัวเองไดั

เคล็ดลับสำหรับมือใหม่

เคล็ดลับสำคัญเกี่ยวกับการเลือกรูปแบบของการออกสกุลเงินดิจิทัลก็คือการโฟกัสไปที่ความจำเป็นและความต้องการของแต่ละบุคคล กล่าวคือ แต่ละบริษัทหรือแต่ละบุคคลควรจะให้ความสำคัญไปที่วัตถุประสงค์ของการใช้งานโทเคน ทั้งโทเคน คริปโตเคอร์เรนซี และอัลท์คอยน์ต่างก็มีบทบาทที่เฉพาะเจาะจงในตลาด และทำให้อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีสมบูรณ์และมีความหลากหลาย

ปัจจัยต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ:

• ฟังก์ชันการทำงานของคริปโตเคอร์เรนซี
• งานเชิงเทคนิคที่ใช้บริการใหม่ รูปแบบของสินทรัพย์ดิจิทัลที่เหมาะสมกว่า
• ต้นทุนทางการเงินและแรงงานที่กำหนดของบริษัท
• กรอบเวลาของการกำหนดการทำให้เป็นโทเคน
• มีบุคคลที่มีความสามารถในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ฯลฯ

บทสรุป

แต่ละบริษัทประเมินประสิทธิภาพของการสร้างโทเคน และตัดสินใจเองว่ามีความจำเป็นในการสร้างบล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซี หรือมีความเป็นไปได้ในการใช้การพัฒนาของบุคคลภายนอกในการสร้างโทเคนหรือไม่ สำหรับตลาดคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดนั้น ไม่สำคัญว่าจะเลือกรูปแบบใด สำหรับผู้ที่จะซื้ออัลท์คอยน์ (เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคำจำกัดความของอัลท์คอยน์ของเราจะชัดเจนมากพอ) อาจจะมีโปรเจ็กต์บล็อกเชนที่มอบผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนที่มุ่งมั่น ทั้งนี้ USDT ถือเป็นคริปโตเคอร์เรนซีที่มีความเสถียรมากที่สุดตลอดกาล

คริปโตที่มีความเสถียรมากที่สุด อัลท์คอยน์กับคริปโต และโทเคน ทั้งหมดคือองค์ประกอบของการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ดีและเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศของคริปโตเคอร์เรนซี อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์โดยรวมในส่วนของการใช้เศรษฐกิจดิจิทัลกับบล็อกเชนและการเพิ่มโอกาสในการใช้งานเรื่องดังกล่าว