การเทรด Forex: วิธีการทำงานและหลักการพื้นฐาน
Description
ตลาด Forex เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดของโลกโดยมีปริมาณการซื้อขายในแต่ละวันมากกว่า $5 ล้านล้าน อีกทั้งยังเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องไม่เหมือนกับตลาดอื่นๆ ความเป็นไปได้ของตลาด Forex มีมากเสียจนเรามองข้ามไม่ได้ เราจึงจะอธิบายความหมายของตลาด Forex ในบทความนี้
ความหมายและวิธีการทำงานของการเทรด Forex?
ในแต่ละวัน สกุลเงินต่างประเทศมีมูลค่าสูงขึ้นและลดลงโดยมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน เมื่อมูลค่าของสกุลเงินเปลี่ยนแปลงไป เทรดเดอร์จะสามารถทำกำไรได้จากการเคลื่อนไหวดังกล่าว เนื่องจากทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ตลาด Forex จึงมีสภาพคล่องสูง สิ่งที่ทำให้นักลงทุนหลายคนประหลาดใจก็คือขนาดของตลาด Forex ซึ่งอันที่จริงนั้นเป็นตลาดการเงินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และมีปริมาณการเทรดโดยเฉลี่ยในแต่ละวันอยู่ที่ $6.6 ล้านล้านตามการสำรวจตลาดอนุพันธ์ FX และ OTC ของ Triennial Central Bank ในปี 2019 ในขณะที่ปริมาณการเทรดโดยเฉลี่ยในแต่ละวันของ New York Stock Exchange อยู่ที่ $1.1 ล้านล้านเท่านั้น
โดยทั่วไปนั้น Forex ได้รับการจำกัดความดังต่อไปนี้: Forex คือโอกาสต่อเนื่องสำหรับเทรดเดอร์ในการดำเนินการต่างๆ ภายในกรอบความผันผวนของสินทรัพย์และตลาดต่างๆ อีกคำจำกัดความหนึ่งก็คือ: การเทรด FX คืออะไร? นี่เป็นตลาดที่ผู้สนใจ (เทรดเดอร์) แลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศสกุลหนึ่งกับอีกสกุลหนึ่งผ่านระบบออนไลน์ในอัตราเดียวกันกับผู้เข้าร่วมที่ซื้อขายผ่านเคาน์เตอร์ทั่วโลก
การทำงานของ Forex?
การเทรด Forex มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการเงินและเศรษฐกิจของสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความเสถียร
การเทรด Forex ก็เหมือนกับการซื้อและการขายหลักทรัพย์ประเภทอื่นอย่างหุ้น ความแตกต่างหลักๆ ก็คือ การเทรด Forex จะได้รับการดำเนินการเป็นคู่ เช่น EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ) หรือ JPY/GBP (เยนญี่ปุ่น/ปอนด์อังกฤษ) เมื่อคุณเทรด Forex คุณจะขายสกุลเงินหนึ่งและซื้ออีกสหุลเงินหนึ่ง คุณจะได้กำไรหากสกุลเงินที่คุณซื้อมีราคาสูงกว่าสกุลเงินที่คุณขาย
วิธีการทำงานของ Forex? ตัวอย่างเช่น อัตราแลกเปลี่ยนยูโรและดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 1.40 ต่อ 1 หากคุณซื้อ 1,000 ยูโร คุณจะต้องจ่าย 1,400 ดอลลาร์สหรัฐ ในเวลาต่อมาหากอัตราของสกุลเงินเปลี่ยนจาก 1.50 เป็น 1 คุณจะสามารถขายเงินยูโรดังกล่าวได้ในราคา 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะทำให้คุณได้กำไร 100 ดอลลาร์
วิธีการทำงานของสกุลเงิน และ Forex เกี่ยวข้องอย่างไรกับสกุลเงิน?
ตลาดสกุลเงิน (หรือที่เรียกว่าตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ) เป็นตลาดแบบครบวงจรที่ผู้เข้าร่วมสามารถซื้อและขายสกุลเงินต่างๆ ซึ่งดำเนินการในเขตอำนาจต่างๆ ทั่วโลก ตลาดสกุลเงินมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในการเทรดระหว่างประเทศและภาคการเงิน
ตลาดสกุลเงินให้บริการแก่บริษัทและบุคคลต่างๆ โดยการช่วยให้บริษัทและบุคคลดังกล่าวซื้อและขายสินค้าและบริการซึ่งเป็นสกุลเงินต่างประเทศและการไหลเวียนของเงินทุนที่ราบรื่น ตลาดสกุลเงินและการเทรด Forex ดำเนินการอย่างไม่หยุดหย่อนและมีผู้เข้าร่วมที่สำคัญ เช่น ธนาคารระหว่างประเทศขนาดใหญ่ บริษัท หน่วยงานของรัฐ ผู้เข้าร่วมรายย่อย ฯลฯ
ตลาดสกุลเงินเป็นสถานที่สำหรับการเทรดสกุลเงินโดยที่ผู้เข้าร่วมจะอยู่ในเขตอำนาจต่างๆ ถึงแม้ว่าจะเข้าสู่ตลาดด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน แต่ผู้เข้าร่วมในตลาดจะทำให้ตลาดมีสภาพคล่องมากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ เนื่องจากเวลาของตลาดสกุลเงินจะเป็นไปตามนาฬิกา ตลาดสกุลเงินจึงมอบโอกาสที่สำคัญมากขึ้นแก่ระบบธนาคารระหว่างประเทศในการจัดการบัญชีกระแสรายวันและบัญชีทุน เมื่อเป็นเช่นนี้ ตลาดสกุลเงินดังกล่าวจึงเป็นแรงขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลังเศรษฐกิจของโลกที่สดใส สิ่งที่พึงสังเกตในที่นี้ก็คือ ตลาดสกุลเงินเป็นเครือข่ายของตลาดโลกที่ไม่ได้ทำงานพร้อมกัน แต่ตลาดสกุลเงินจะทำงานตามเขตเวลาต่างๆ โดยจะเริ่มต้นจากตลาดญี่ปุ่น ตามด้วยตลาดฮ่องกง สิงคโปร์ อินเดีย ตะวันออกกลาง (บาห์เรน) ยุโรป สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และแคนาดา และปิดท้ายด้วยออสเตรเลีย ตลาดสกุลเงินสดจะจัดการกับสกุลเงินต่างๆ สกุลเงินดังกล่าวจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากปัจจัยพื้นฐานต่างๆ เช่น ความสมดุลของสูตรการชำระเงิน อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่คาดหวัง นโยบายการคลังของรัฐบาลของประเทศนั้นๆ ความเป็นอิสระของธนาคารกลางในการดำเนินนโยบายการเงิน และสภาพแวดล้อมของอัตราดอกเบี้ยโดยทั่วไป ปัจจัยทั้งหมดนี้จะทำให้สกุลเงินอ่อนค่าหรือแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ
ตลาดสกุลเงินเป็นตลาดที่มีความสำคัญและมีบทบาทเป็นอย่างยิ่งในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง การรวมโลกที่ประสบความสำเร็จและการไหลเวียนของเทรดอย่างเสรีเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ตลาดสกุลเงินที่เฟื่องฟูจะช่วยให้ผู้ซื้อสินค้าและบริการตลอดจนผู้ขายสามารถแปลงการรับ/การชำระเงินการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศให้เป็นสกุลเงินท้องถิ่น ตลาดสกุลเงินต่างประเทศเกี่ยวข้องกับเทรดเดอร์ นักเก็งกำไร นักลงทุนที่แสวงหากำไร นักลงทุน ธนาคาร/FI และบริษัท ฯลฯ ผู้เข้าร่วมทั้งหมดข้างต้นจะทำให้ตลาดสกุลเงินมีประสิทธิภาพและมีสภาพคล่องสูง
การเทรดในตลาดสกุลเงิน: ประโยชน์พื้นฐาน
ก่อนที่จะทำการเทรดในตลาดนี้ เทรดเดอร์จะต้องรวบรวมข้อมูลให้มากพอ และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเทรดอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม เวลาของตลาดสกุลเงินคือ 24 ชั่วโมง ตลาดสกุลเงินจะประกอบไปด้วยสองฝั่ง ฝั่งซื้อ (Buy Side) จะมีผู้ซื้อสกุลเงินต่างประเทศ และส่งต่อสัญญา FX ในขณะที่ฝั่งขาย (Sell Side) จะประกอบไปด้วยดีลเลอร์หลักของสกุลเงินและผู้ริเริ่มสัญญาแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ เช่น บริษัทขนาดใหญ่ เป็นต้น
สกุลเงินจะได้รับการจับคู่และเทรด นั่นก็หมายความว่า สกุลเงินหนึ่งจะได้รับการแลกเปลี่ยนกับอีกสกุลเงินหนึ่ง แต่จำนวนคู่สกุลเงินที่ลดลงเป็นอย่างมากส่งผลกระทบต่อตลาด
ราคาของแต่ละสกุลเงินจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะเศรษฐกิจ การเมือง และการเงินของประเทศนั้นๆ ตลาดจะปิดตั้งแต่ช่วงเย็นของวันศุกร์จนถึงช่วงเย็นของวันอาทิตย์ เนื่องจากสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่มักจะได้รับการเทรดในช่วงเวลาของการเทรด สกุลเงินดังกล่าวจึงมีปริมาณการเทรดสูงสุด
เนื่องจากใช้ระบบการจับคู่ หากเทรดเดอร์ซื้อสกุลเงินหนึ่ง เทรดเดอร์จะต้องขายสกุลเงินอื่นโดยที่สกุลเงินจะได้รับการเสนอราคาเป็น pip (Percentages in Points) หรือจุดร้อยละ
ในตลาดสกุลเงินสด การเทรดจะได้รับการดำเนินการเป็นขนาดล็อตซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามสกุลเงิน มือใหม่หรือผู้ค้ารายย่อยมักจะเทรดในล็อตที่ขนาดเล็กที่สุดเพื่อเผื่อไว้ในกรณีของการขาดทุนเนื่องจากเป็นเรื่องที่สามารถจัดการได้ง่ายมากสำหรับการลงทุนใน Forex
ประวัติโดยสังเขปของ Forex: การพัฒนาการเทรดประเภทนี้
ตลาด Forex คืออะไร? ตลาด Forex สามารถย้อนกลับไปได้ถึงยุคเมโสโปเตเมียโบราณเมื่อประมาณ 5,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้คนจะได้รับ “ใบเสร็จรับเงิน” เป็นโลหะหนึ่งชิ้นเมื่อส่งมอบเมล็ดพืชสำหรับการเก็บรักษา ในเวลาต่อมา ผู้คนเริ่มเปลี่ยนมาใช้เหรียญแทน น้ำหนักของเหรียญจะแตกต่างออกไปตามมูลค่า ยิ่งเหรียญมีมูลค่ามากเท่าใด เหรียญดังกล่าวก็จะยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้นเท่านั้น เมื่อเริ่มมีการเทรดระหว่างประเทศขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 ผู้คนได้ตระหนักว่า เหรียญมีน้ำหนักแตกด่างกันออกไปในแต่ละประเทศ และมีมูลค่าที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดการเปลี่ยนไปใช้ธนบัตร “ที่เหมือนกัน” เพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนทองคำในธนาคาร
ในช่วงกลางของศตวรรษที่ 19 ผู้คนได้นำแนวคิดของ “มาตรฐานทองคำ” มาปรับใช้ นั่นก็หมายความว่า ผู้คนสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินได้ตามอัตราที่เกี่ยวข้องกับทองคำ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป มีความกังวลใจว่าบางประเทศจะสามารถรักษาปริมาณทองคำที่เหมาะสมไว้สำหรับสกุลเงินของตนได้หรือไม่
ในปี 1944 ประเทศพันธมิตรได้ลงนามในข้อตกลง Bretton Woods อันเลื่องชื่อเพื่อก่อตั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ และประกาศให้เงินดอลลาร์สหรัฐและเงินปอนด์อังกฤษเป็นสกุลเงินระหว่างประเทศ
ในปี 1971 หลายประเทศได้ยกเลิกอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ สองปีต่อมา ระบบ Bretton Woods ก็ล่มสลาย
ในปี 1976 ทองคำหยุดสร้างมูลค่าจำนวนมากให้แก่สกุลเงิน อัตราแลกเปลี่ยนเริ่มดำเนินการตามกฎของอุปสงค์และอุปทานของตลาด
หลังจากนั้นในปี 1985 Plaza Hotel ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมตัวแทนของประเทศที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจสูงสุดโดยมีประเทศที่เข้าร่วมในการประชุมคือฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ธนาคารกลางเริ่มมีอิทธิพลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของประเทศดังกล่าว
นับจากปี 1990 ความหมายของตลาด Forex ไม่ได้มีไว้สำหรับสถาบันการเงินขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักลงทุนและเทรดเดอร์จากภาคเอกชนอีกด้วย ประมาณ 5 ปีหลังจากนั้น ได้เริ่มมีการเทรดทางอินเทอร์เน็ต เราสามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า ปี 1995 เป็นจุดเริ่มต้นของยุค Forex ในปัจจุบัน มูลค่าการทำธุรกรรมทั้งหมดในแต่ละวันในตลาดอยู่ที่ประมาณ $5 ล้านล้าน ทำให้ตลาดนี้มีสภาพคล่องมากที่สุดในโลก
หนึ่งในเทรดเดอร์ Forex ที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ J. Soros ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากการถูกกล่าวหาว่าลดมูลค่าของเงินปอนด์ อันที่จริงนั่น Soros มีชื่อเสียงจากการขายสกุลเงินปอนด์ของอังกฤษ (ซึ่งเท่ากับ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงเวลาที่สกุลเงินปอนด์ของอังกฤษหมดศักยภาพในการเติบโต แรงผลักแม้เพียงเล็กน้อยก็มากพอที่จะทำให้เกิดการลดลงของมูลค่าในภายหลัง
เทรดเดอร์สกุลเงินที่มีชื่อเสียงมากอีกคนหนึ่งก็คือ J. Taylor Jr. ซึ่งเริ่มต้นทำงานในฐานะนักวิเคราะห์ของ Chemical Bank เทรดเดอร์รายนี้มีชื่อเสียงจากการบุกเบิกการเทรดโดยอัตโนมัติ การเทรด Forex คืออะไร และทำงานอย่างไร? เรามาพูดคุยกันต่อเลย…
ภาพรวมของตลาด Forex: คุณลักษณะสำคัญ
ตลาด FX เป็นสถานที่สำหรับการเทรดสกุลเงิน นี่เป็นเพียงตลาดการเทรดเดียวของโลกที่ต่อเนื่องและไม่เคยหยุดนิ่ง ในอดีต ตลาด Forex ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของบริษัทสถาบันและธนาคารขนาดใหญ่ซึ่งกระทำการในนามของลูกค้า แต่ตลาด Forex ได้กลายมาเป็นธุรกิจรายย่อยมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทรดเดอร์และนักลงทุนซึ่งมีขนาดการถือครองจำนวนมากได้เริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดนี้ คุณลักษณะที่น่าสนใจของตลาด Forex โลกก็คือ การไม่มีอาคารทางกายภาพที่ทำหน้าที่เป็นสถานที่สำหรับการเทรดสำหรับตลาด แต่ตลาดแห่งนี้เป็นการเชื่อมต่อที่ได้รับการดำเนินการผ่านเทอร์มินัลการเทรดและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ผู้เข้าร่วมในตลาดนี้คือสถาบัน ธนาคารเพื่อการลงทุน ธนาคารพาณิชย์ และนักลงทุนรายย่อย
ตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศถือว่ามีความทึบมากกว่าตลาดการเงินอื่นๆ ไม่มีการบังคับเรื่องการเปิดเผยข้อมูลของสกุลเงินที่ได้รับการเทรดในตลาด OTC พูลสภาพคล่องขนาดใหญ่จากบริษัทสถาบันต่างๆ คือคุณลักษณะที่พบได้ทั่วไปของตลาด บางคนอาจจะมองว่า พารามิเตอร์ทางเศรษฐกิจของประเทศควรจะเป็นเกณฑ์ที่มีความสำคัญมากที่สุดในการกำหนดราคาของสกุลเงิน แต่นั่นไม่ใช่ในกรณีนี้เพราะการสำรวจในปี 2019 เผยให้เห็นว่า แรงจูงใจของสถาบันการเงินขนาดใหญ่มีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างมากในการกำหนดราคาของสกุลเงิน
Forex ได้รับการเทรดในสามสถานที่ดังต่อไปนี้เป็นหลักนั่นก็คือตลาดสปอต (Spot Market) ตลาดล่วงหน้า (Forward Market) และตลาดฟิวเจอร์ส (Futures Market) ตลาดสปอตเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ้มากที่สุดในบรรดาทั้งสามตลาดเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ “พื้นฐาน” ของตลาดล่วงหน้าและตลาดฟิวเจอร์ส เมื่อเรากล่าวถึงตลาด Forex เรามักจะนึกถึงตลาดสปอต ทั้งนี้ ตลาดล่วงหน้าและตลาดฟิวเจอร์สจะได้รับความนิยมมากกว่าสำหรับบริษัทหรือบริษัทการเงินที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศในวันที่เฉพาะเจาะจงในอนาคต
ตลาดสปอตกับการเทรดคู่สกุลเงิน
การเทรด Forex ในตลาดสปอตมักจะมีขนาดใหญ่มากที่สุดอยู่เสมอเนื่องจากเป็นการเทรดในสินทรัพย์พื้นฐานจริงที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดสำหรับตลาดล่วงหน้าและตลาดฟิวเจอร์ส ก่อนหน้านี้ ปริมาณการเทรดของตลาดล่วงหน้าและตลาดฟิวเจอร์สสูงกว่าตลาดสปอต อย่างไรก็ตาม ปริมาณการเทรดในตลาดสปอตสำหรับ Forex เพิ่มมากขึ้นเมื่อมีการเทรดผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และเมื่อมีจำนวนโบรกเกอร์ Forex มากขึ้น
ตลาดสปอตเป็นที่ซื้อขายสกุลเงินตามราคาการเทรด ราคาดังกล่าวจะได้รับการกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทาน และจะได้รับการคำนวณจากปัจจัยต่างๆ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นที่มีต่อสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน (ทั้งในประเทศและต่างประเทศ) และการรับรู้ถึงประสิทธิภาพในอนาคตของสกุลเงินหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง ดีลในขั้นสุดท้ายจะเรียกว่าสปอตดีล (Spot Deal) ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมแบบทวิภาคีโดยที่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งส่งมอบจำนวนของสกุลเงินตามที่ตกลงกันให้แก่คู่สัญญาอีกฝ่าย และรับจำนวนที่ระบุของสกุลเงินอื่นตามมูลค่าของอัตราแลกเปลี่ยนที่ตกลงกันไว้ หลังจากปิดสถานะแล้ว จะมีการชำระเงินด้วยเงินสด แม้ว่าตลาดสปอตจะเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าเป็นตลาดที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมในปัจจุบัน (มากกว่าที่จะเป็นในอนาคต) แต่การซื้อขายดังกล่าวมักจะใช้เวลาสองวันในการชำระเงิน
ตลาดล่วงหน้าและตลาดฟิวเจอร์สกับการเทรดสกุลเงิน
สัญญาล่วงหน้า (Forward Contract) เป็นข้อตกลงส่วนตัวระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายในการซื้อสกุลเงินในวันที่ในอนาคตตามราคาที่กำหนดในตลาด OTC ส่วนสัญญาฟิวเจอร์ส (Futures Contract) เป็นข้อตกลงมาตรฐานระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายในการส่งมอบสกุลเงินในวันที่ในอนาคตตามราคาที่กำหนด การเทรตฟิวเจอร์สเป็นการแลกเปลี่ยน และไม่ได้เป็น OTC
ในตลาดล่วงหน้านั้น สัญญา OTC จะได้รับการซื้อขายระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายโดยที่คู่สัญญาจะกำหนดเงื่อนไขของข้อตกลงระหว่างกัน ในตลาดฟิวเจอร์สนั้น สัญญาฟิวเจอร์สจะได้รับการซื้อขายตามขนาดมาตรฐานและวันที่ชำระเงินของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์สาธารณะ เช่น Chicago Mercantile Exchange (CME) ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์สาธารณะ เช่น Chicago Mercantile Exchange (CME)
สมาคมฟิวเจอร์สแห่งชาติ (National Futures Association - NFA) จะกำกับดูแลตลาดฟิวเจอร์สในสหรัฐอเมริกา สัญญาฟิวเจอร์สจะมีรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงรวมถึงจำนวนของสกุลเงินที่เทรด วันส่งมอบ และวันชำระเงิน รวมถึงการเพิ่มราคาขั้นต่ำที่ไม่สามารถกำหนดได้ แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนจะทำหน้าที่ดป็นคู่สัญญาอีกฝ่ายของเทรดเดอร์เพื่อมอบบริการการชำระบัญชีและการชำระเงิน
สัญญาทั้งสองประเภทจะมีผลผูกพัน และจะได้รับการชำระเป็นเงินสดเมื่อการแลกเปลี่ยนที่เกี่ยวข้องหมดอายุลงแม้ว่าคุณจะสามารถซื้อขายสัญญาได้ก่อนที่สัญญาดังกล่าวจะหมดอายุ ตลาดล่วงหน้าและตลาดฟิวเจอร์สจะมอบการป้องกันความเสี่ยงเมื่อทำการเทรดสกุลเงิน โดยปกตินั้น บริษัทระหว่างประเทศขนาดใหญ่มักจะใช้ตลาดดังกล่าวในการป้องกันความเสี่ยงที่มีต่อความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคต แต่นักเก็งกำไรเองก็มีส่วนร่วมในตลาดดังกล่าวเช่นกัน
นอกเหนือจากฟอร์เวิร์ดสและฟิวเจอร์สแล้ว สัญญาออปชันเองก็จะได้รับการเทรดในคู่สกุลเงินที่เฉพาะเช่นกัน ออปชัน Forex จะให้สิทธิ์แก่ผู้ถือ แต่จะไม่ถือเป็นข้อผูกมัดในการเข้าสู่การเทรด Forex ในวันที่ในอนาคตตามอัตราแลกเปลี่ยนที่กำหนดไว้ล่วงหน้าก่อนที่ออปชันจะหมดอายุ
หลักการพื้นฐานของการเทรด Forex
ตัวเลือกของคุณ ในขณะที่เทรดเดอร์ในตลาดหุ้นมีหุ้นหลายพันตัวให้ได้เลือก แต่ตัวเลือกสำหรับเทรดเดอร์ Forex กลับมีจำนวนจำกัดกว่ามาก การเทรดทำงานอย่างไร? มีเพียงแค่แปดประเทศที่มีเศรษฐกิจสำคัญและมีสกุลเงินที่เป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์เท่านั้นซึ่งได้แก่สหรัฐอเมริกา แคนาดา ยูโรโซน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์ สกุลเงินของประเทศดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงของเทรดเดอร์ Forex ว่าเป็น “สกุลเงินหลัก”
แม้ว่าคุณจะสามารถเทรดสกุลเงินจากประเทศอื่นๆ ได้ แต่สกุลเงินหลักยังคงมีสภาพคล่องมากที่สุดและมีสเปรดที่แคบที่สุดระหว่างราคาซื้อกับราคาขายซึ่งทั้งสองถือเป็นต้นทุนสำคัญที่เทรดเดอร์ต้องให้ความใส่ใจ ประเทศข้างต้นยังมีตลาดการเงินที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดของโลกเช่นกัน งานของเทรดเดอร์ก็คือการหาว่าสกุลเงินใดที่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นและลดลง จากนั้นจึงทำการเทรดในตลาด Forex
สิ่งที่มีผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนในการเทรดในตลาด Forex? มีหลายปัจจัยที่สามารถส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนในตลาด Forex ปัจจัยที่สำคัญมากที่สุดก็คืออัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยจะได้รับการกำหนดโดยธนาคารกลางของแต่ละประเทศที่เกี่ยวข้อง อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมักจะนำไปสู่สกุลเงินที่แข็งค่ามากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
การเติบโตทางเศรษฐกิจ จำนวนคนว่างงาน และความสมดุลของการเทรดระหว่างประเทศต่างๆ คือปัจจัยสำคัญอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน โดยทั่วไปนั้น ข่าวที่มาพร้อมกับตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าที่คาดไว้ของประเทศมักจะมีศักยภาพในการกระตุ้นมูลค่าสกุลเงินของประเทศดังกล่าว อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญและคุณต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับตลาด Forex ก็คือการที่สกุลเงินจะได้รับการเทรดเป็นคู่อยู่เสมอ นั่นก็หมายความว่า หากคุณต้องการซื้อสกุลเงิน คุณจะต้องขายอีกสกุลเงินไปพร้อมกัน แม้ว่าในตอนแรกการทำเช่นนี้จะทำให้คุณรู้สึกสับสน แต่เรื่องดังกล่าวถือว่าสมเหตุสมผลหากคุณคิดให้ดีๆ ในเรื่องนี้
ในทำนองเดียวกัน มูลค่าของสกุลเงินหนึ่งจะต้องได้รับการวัดด้วยสกุลเงินอื่น ไม่มีสกุลเงินใดที่จะแข็งค่าขึ้นหรืออ่อนค่าลงโดยที่คุณไม่ทำการเปรียบเทียบกับสกุลเงินอื่น! วิธีการใช้เลเวอเรจอย่างปลอดภัย
ตลาด Forex เป็นหนึ่งในตลาดที่มอบเลเวอเรจในจำนวนที่เหลือเชื่อให้แก่เทรดเดอร์ นั่นก็หมายความว่า เทรดเดอร์สามารถยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อเอามากระตุ้นกำลังการซื้อในตลาด Forex ได้ โบรกเกอร์ในตลาด Forex จะมอบเลเวอเรจจาก 1:20 ถึง 1:500 และมากกว่านั้นในบางครั้ง
เลเวอเรจอาจจะเป็นอันตรายมากเพราะสามารถทำให้คุณสูญเสียเงินได้เร็วมากขึ้นกว่าการเทรดโดยใช้เงินของคุณเอง อย่างไรก็ตาม เลเวอเรจสามารถเพิ่มกำไรให้คุณได้เช่นกัน นี่เองคือเหตุผลหลักทึ่ว่าทำไมตลาด Forex ถึงดึงดูดใจเทรดเดอร์อิสระรายย่อยซึ่งก็คือคนที่เป็นเหมือนคุณและผู้เขียนที่กำลังเทรด Forex จากบ้านของเราเองนั่นแหละ
เมื่อคุณเรียนรู้กลยุทธ์การเทรดที่สามารถทำกำไรให้คุณได้และเก๋าเกมมากพอ ตลาด Forex จะมอบโอกาสในการทำกำไรจำนวนมากให้แก่คุณโดยที่คุณจะใช้เงินตั้งต้นจำนวนเล็กน้อยในบัญชีการเทรดของคุณ นี่แหละคือพลังที่แท้จริงของการเทรด Forex และเหตุผลที่ว่า ทำไมคนจำนวนมากถึงอยากเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้! การทำความเข้าใจอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเป็นกุญแจสำคัญของการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงิน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและทิศทางของอัตราดอกเบี้ยจึงเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ Forex มืออาชีพ
หนึ่งในวิธีที่เทรดเดอร์ติดตามสิ่งนี้ก็คือการเฝ้าดูแถลงการณ์และสุนทรพจน์ของธนาคารกลางอย่างใกล้ชิด ตัวอย่างเช่น เมื่อประธานของธนาคารกลางแห่งสหรัฐออกมาพูด คุณจะมั่นใจได้เลยว่า เทรดเดอร์ Forex ทั่วโลกจะต้องอยู่ที่หน้าจอ และเฝ้าดูสัญญาณว่า อัตราดอกเบี้ยจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดในอนาคต เหตุการณ์เช่นนี้มักจะนำไปสู่ความผันผวนเป็นอย่างมากในสกุลเงินที่ได้รับผลกระทบ และเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญได้เรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ดังกล่าว
การทำความเข้าใจอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทย
เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเป็นกุญแจสำคัญของการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินต่างๆ การทำความเข้าใจอัตราดอกเบี้ยและทิศทางของอัตราดอกเบี้ยจึงเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญมากที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ Forex มืออาชีพชาวไทยไม่ว่าจะมาจากภูเก็ต พัทยา กรุงเทพฯ หรือว่าเชียงใหม่ หนึ่งในวิธีที่เทรดเดอร์ในประเทศไทยติดตามสิ่งนี้ก็คือการเฝ้าดูแถลงการณ์และสุนทรพจน์ของธนาคารกลางอย่างใกล้ชิด ตัวอย่างเช่น เมื่อประธานของธนาคารกลางแห่งสหรัฐออกมาพูด คุณจะมั่นใจได้เลยว่า เทรดเดอร์ Forex ทั่วโลกจะต้องอยู่ที่หน้าจอ และเฝ้าดูสัญญาณว่า อัตราดอกเบี้ยจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดในอนาคต
เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้มักจะนำไปสู่ความผันผวนเป็นอย่างมากในสกุลเงินที่ได้รับผลกระทบซึ่งเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์มือเก๋าได้เรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากเรื่องดังกล่าว
บทสรุป
ตลาด Forex เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดของโลกโดยมีปริมาณการซื้อขายในแต่ละวันมากกว่า $5 ล้านล้าน อีกทั้งยังเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องไม่เหมือนกับตลาดอื่นๆ โอกาสต่างๆ ของตลาด Forex มีมากเสียจนเรามองข้ามไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์มือใหม่ทุกคนจะต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเทรด Forex อย่างถ่องแท้และเรียนรู้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงสำคัญต่างๆ การทำเช่นนี้จะช่วยให้ทุกคนประสบความสำเร็จในระยะยาว และทำเงินได้แบบไม่จำกัดจากทุกที่บนโลกใบนี้รวมถึงในประเทศไทยและหมู่เกาะต่างๆ