การจัดการความเสี่ยงบน EXEX
Description
การจัดการความเสี่ยงถือเป็นหัวข้อพิเศษสำหรับการฝึกปฏิบัติสำหรับการเทรด เพื่อให้เข้าใจคำนี้ได้อย่างเหมาะสม คุณจึงต้องสังเกตว่า การจัดการความเสี่ยงบนแพลตฟอร์มจะหมายถึงการคำนวณการแลกเปลี่ยนที่ถูกต้องของอัตราส่วนระหว่าง Take-profit กับ Stop-loss เพื่อลดการขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้นรวมถึงเพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะไม่สูญเสียเงินฝากทั้งหมดของคุณไปในกรณีที่ตลาดมีความผันผวนอย่างรุนแรง
การจัดการความเสี่ยงบนอินเตอร์เฟสของ EXEX
เรามาดูกันที่กลไกของการจัดการความเสี่ยงบนอินเตอร์เฟสของแพลตฟอร์มกัน EXEX แบ่งความเสี่ยงออกสามระดับคือ ต่ำ ปานกลาง และสูง หรือหมายเลข “1” “2” และ “3” ในรูปโดยที่ความเสี่ยงแต่ละระดับจะอยู่ใน Open Position
ความเสี่ยงในระดับต่ำ
ด้วยการเปิดตำแหน่งเพื่อซื้อหรือขายสกุลเงินดิจิทัลและเลือกระดับความเสี่ยงต่ำ ระบบจะตั้งค่าการทำกำไรโดยอัตโนมัติที่ +25% และหยุดการขาดทุนที่ -90% เมื่อเทียบกับราคาเปิด ด้วยวิธีนี้ คุณจะได้รับกำไรโดยอัตโนมัติเมื่อราคาเปลี่ยนไปในทิศทางที่ถูกต้อง และในกรณีที่ดิ่งลงอย่างรวดเร็ว จะมีการเรียกใช้จุดหยุดการขาดทุน ประกันเงินฝากของคุณจากการสูญเสียเงินทุนทั้งหมด
คำว่าระดับ “ต่ำ” จะได้รับการจำกัดความว่าเป็นระดับของความเสี่ยงตามความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ซึ่งได้แก่กำไรหรือขาดทุน ตัวอย่างเช่น หากตัวบ่งชี้ RSI ส่งสัญญาณให้คุณ “ซื้อ” หรือ “Active Buy” เหตุการณ์ที่คาดการไว้จะมีราคาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เป็นที่ชัดเจนว่า การเพิ่มขึ้นของราคาที่คาดการไว้ในระยะสั้นจะมีความน่าจะเป็นมากกว่าการลดลงของราคา
กลยุทธ์การเทรดแบบความเสี่ยงต่ำเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำกำไรแบบค่อยเป็นค่อยไปแต่ทำกำไรได้บ่อยครั้ง เมื่อใช้สัญญาณของตัวบ่งชี้ในการเทรดประเภทนี้ ความน่าจะเป็นเชิงสถิติของกำไรจะอยู่ที่ประมาณ 70% อีกสิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องทราบเช่นกันก็คือ การทำธุรกรรมประเภทนี้มีความรวดเร็วที่สุดเนื่องจากขั้นตอนของราคาสำหรับการสั่งงานให้เกิด Take-profit นั้นมีน้อยมาก
ความเสี่ยงในระดับปานกลาง
ก่อนเปิดตำแหน่งขายหรือซื้อ ให้เลือกระดับความเสี่ยงปานกลาง (#2 ในรูปด้านบน) ในกรณีนี้ ระบบจะทำกำไรโดยอัตโนมัติที่ +50% และหยุดการขาดทุนที่ -90% ระดับการเปลี่ยนแปลงของราคาเมื่อเทียบกับราคาของการเปิดสถานะ
การเทรดที่มีความเสี่ยงในระดับกลางจะเป็นการเทรดที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ซึ่งมีกลยุทธ์ที่ได้รับการกำหนดพร้อมสมดุลระหว่างกำไรกับขาดทุน ในเชิงสถิตินั้น กลยุทธ์ดังกล่าวมีความน่าจะเป็นของกำไรอยู่ที่ 53% เมื่อใช้สัญญาณของตัวบ่งชี้ RSI การทำธุรกรรมในความเสี่ยงประเภทนี้จะมีความรวดเร็วเช่นกันในแง่ของเวลา
ความเสี่ยงในระดับสูง
เมื่อเปิดสถานะ "Buy" หรือ "Sell Position" ที่มีความเสี่ยงสูง จุดทำกำไรจะถูกตั้งค่าที่ +100% และจุดหยุดการขาดทุนจะอยู่ที่ -90%
คุณสามารถเลือกความเสี่ยงในระดับนี้ได้หากคุณมั่นใจในการคาดการของคุณรวมถึงสัญญาณของตัวบ่งชี้ กลยุทธ์นี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่เต็มใจขาดทุนเล็กๆ น้อยๆ แต่ทำกำไรได้มาก ความน่าจะเป็นในเชิงสถิติของการได้ Position นี้จะอยู่ที่ 36% แต่คุณจะได้กำไรสองเท่าหรือมากกว่านั้นหลายเท่าเมื่อเทียบกับความเสี่ยงในระดับอื่น เนื่องจากขั้นตอนในการ Take-Profit มีมากกว่าขั้นตอนของ Stip-loss ถึงสองเท่า การเทรดประเภทนี้จึงใช้เวลามากกว่าการเทรดในระดับความเสี่ยง “ต่ำ” และ “ปานกลาง” เล็กน้อย ความเสี่ยงอื่นๆ ในการเทรดคริปโต
นอกเหนือจากการจัดการความเสี่ยงของการแลกเปลี่ยนซึ่งเป็นไปตามวิธีการต่างๆ ในการปกป้องไม่ให้คุณสูญเสียเงินทุนเนื่องจากการเคลื่อนไหวของสกุลเงินที่คาดการไม่ได้แล้ว คุณยังต้องคำนึงถึงความเสี่ยงอื่นๆ เมื่อคุณทำการเทรดคริปโตเคอร์เรนซีเช่นกัน
- นักต้มตุ๋นและแฮกเกอร์: เมื่อทำการเทรดในตลาดที่ไม่มีการปกป้อง คุณอาจนำตัวเองไปเสี่ยงที่จะต้องเจอกับพวกหลอกลวง หนึ่งในรูปแบบทั่วไปที่คุณจะถูกหลอกก็คือ การส่งเงินไปให้ผู้ขายเพื่อทำการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน แต่คุณกลับไม่ได้อะไรคืนมาเลยเพราะผู้ขายจะหายตัวไปจากเว็บไซต์หรือบล็อคการสื่อสารกับคุณในทุกช่องทาง
ในกรณีของแฮกเกอร์นั้น รูปแบบของการขโมยเงินของคุณจะมีมากมายหลายวิธี พวกแฮกเกอร์สามารถส่งอีเมลและข้อเสนอต่างๆ ซึ่งถูกทำให้เหมือนกับว่ามาจากแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนของคุณ คุณไปตามลิงก์ที่ได้จากอีเมล แล้วเงินในวอลเล็ตของคุณก็จะหายไป เราเรียกวิธีการแฮกแบบนี้ว่า “ฟิชชิง” พวกหลอกลวงมักจะ “หลอกล่อ” เทรดเดอร์ที่ยังขาดประสบการณ์ เช่น คนที่คลิกลิงก์ในอีเมลโดยไม่ตรวจสอบที่อยู่ของผู้ส่งหรือเปรียบเทียบที่อยู่ดังกล่าวกับที่อยู่จริงของแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยน
พวกแฮกเกอร์มักจะโจมตีแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนเพื่อแฮกเข้าไปและถอนเงินออกจากวอลเล็ตของผู้ใช้ การโจมตีดังกล่าวจะทำให้แพลตฟอร์มที่ได้รับการปกป้องไม่ค่อยดีสูญเสียเงินจำนวนหลายร้อยล้านดอลลาร์ของผู้ใช้
- ปัญหาเชิงเทคนิคเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยน: หนึ่งในข้อเสียของแพลตฟอร์มการเทรดซึ่งมีองค์ประกอบเชิงเทคนิคที่ไม่แข็งแกร่งก็คือ ความล้มเหลวและการทำงานที่ผิดปกติของระบบการเทรด ทำให้ Open Position อาจหายไป ในขณะที่เงินที่โอนก็อาจไปไม่ถึงมือผู้รับฯลฯ วิธีการหลักในการจัดการกับผลที่ตามมาของสถานการณ์ดังกล่าวก็คือการใช้ขั้นตอน KYC (การพืสูจน์ยืนยันตัวตนของลูกค้า) เมื่อลงทะเบียนบนแพลตฟอร์ม การพิสูจน์ยืนยันตัวตนของลูกค้าจะช่วยให้ประวัติ Position และการทำธุรกรรมของลูกค้าได้รับการยืนยันเพื่อที่จะได้สามารถส่งคืนเงินที่ “หายไป” ให้แก่ผู้ที่เป็นเจ้าของได้
พึงจำเอาไว้เสมอว่า กฎข้อแรกของการปกป้องเงินฝากของคุณก็คือการเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม เมื่อคุณเลือก EXEX คุณจะมั่นใจได้ว่า ระบบการเทรดที่ไว้วางใจได้ของเราจะมอบความปลอดภัยให้แก่คุณในทุกขั้นตอนของการเทรด เทคโนโลยีของเราผ่านการทดสอบมาเป็นเวลานาน และเราสามารถปกป้องลูกค้าของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมาเป็นเวลานานกว่า 9 ปีแล้ว
บทสรุป
ความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยีของเราเป็นสิ่งที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในขณะที่ความปลอดภัยของลูกค้าของเราถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของเรา
แพลตฟอร์มของเรามอบระบบการจัดการความเสี่ยงสุดพิเศษให้แก่ลูกค้าของเรา การสั่งงาน Take-profit และ Stop-loss โดยอัตโนมัติของเราร่วมกับการอ่านตัวบ่งชี้และการคาดการส่วนบุคคลของคุณจะทำให้สถิติการเทรดของคุณดีขึ้น ช่วยให้เงินฝากของคุณปลอดภัย และช่วยให้คุณสามารถปรับกลยุทธ์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ท้ายสุดนี้ พึงจำเอาไว้ว่า EXEX ไม่ได้ให้คำปรึกษาทางการเงิน แต่เรามอบเครื่องมือการแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ทุกคนของเรา
