Metaverse: แนวโน้ม กฎระเบียบ หรือมิติใหม่ของเทคโนโลยี?

Description

Metaverse เป็นโลกดิจิทัล 3 มิติที่ไร้ขีดจำกัด คู่มือฉบับสุดยอดไปสู่ Metaverse เคล็ดลับ ข้อได้เปรียบและข้อเสียเปรียบ

ผู้คนจำนวนมากในประเทศไทยหลงใหลในนิยายวิทยาศาสตร์ โลกสมมติ และหัวข้อเรื่องจักรวาลคู่ขนาน อย่างไรก็ตาม มีจักรวาลคู่ขนานในโลกดิจิทัลอยู่จริง Metaverse อยู่ใกล้กับเรา และเป็นโลกคู่ขนานตามที่ระบุไว้โดยนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ที่ชื่อดังมากที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20

หนังสือดังกล่าวได้ให้คำจำกัดความของคำว่า Metaverse คำดังกล่าวได้รับการเสนอแนะโดยนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันอย่าง Neal Stephenson ในผลงานยุคหลังไซเบอร์พังค์ของเขาที่มีชื่อว่า "Snow Crash" ในปี 1992 คำนี้ได้บอกถึงอนาคตของเทคโนโลยีเสมือนจริง คำนี้เป็นคำที่ติดหูในโลก IT และได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นในศตวรรษที่ 21 ในปัจจุบัน เราบอกไม่ได้ว่า อะไรมีอิทธิพลมากกว่ากันระหว่างการพัฒนา Metaverse กับวรรณกรรมแฟนตาซี

Metaverse คืออะไร? Metaverse เป็นพื้นที่ดิจิทัลที่ทำงานอยู่ตลอดเวลา และได้รับการควบคุมโดยผู้ใช้ด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์พิเศษต่างๆ เพื่อให้รู้สึกได้ถึงความสมจริงเต็มรูปแบบของโลกรอบตัวที่นักพัฒนาสร้างขึ้น Metaverse เป็นชุดของเทคนิคการมองเห็น ความรู้สึกทางกายภาพ และสิ่งต่าง ๆ ที่ได้รับการถ่ายโอนไปยังพื้นที่เสมือนจริงและการเลียนแบบชีวิตจริง ยิ่ง Metaverse มีคุณภาพและเป็นไปตามแนวคิดมากเท่าใด โปรเจ็กต์ก็ยิ่งได้รับการพิจารณามากเท่านั้น

Metaverse คืออะไร? ความเป็นมาโดยสังเขป

ความหมายของ Metaverse มีมากขึ้นในทุกปี ขั้นตอนแรกของการทดสอบเริ่มต้นด้วยการใช้กราฟิกการทำเครื่องหมายสีเหลืองตรงด้านบนของฟุตเทจจริง จากนั้นเทคโนโลยีความจริงเสริมก็เริ่มถูกนำมาใช้ในด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเกม แอปพลิเคชันสำหรับการขาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการสาธิตผลิตภัณฑ์ ฯลฯ

ขั้นตอนใหม่ในการพัฒนา Metaverse มาพร้อมกับการมาถึงของธุรกิจยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม และการเริ่มต้นของการผลิตจำนวนมากในส่วนของชุดหูฟัง AR และ VR

ในปี 2014 ผู้มีบทบาทสำคัญในธุรกิจหลายคนได้เข้าสู่โลกเสมือนจริงพร้อมกัน: • Facebook ซื้อ Oculus VR • ยักษ์ใหญ่อย่าง Sony และ Samsung กล่าวว่า บริษัทกำลังทำงานในส่วนของชุดหูฟัง VR ของตัวเอง • Google เปิดตัวแว่นตา Google Glass Metaverse AR เหตุการณ์สำคัญของการพัฒนา Metaverse ถัดจากนั้นเกี่ยวข้องกับ Facebook หรือที่เรียกกันในปัจจุบันว่า Meta

Meta คืออะไร? นี่เป็นชื่อใหม่ของบริษัทซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีอย่าง Facebook ที่ประกาศว่าจะทำการรีแบรนด์และเปลี่ยนแปลงทิศทางของธุรกิจในเดือนตุลาคม 2021

ผู้ก่อตั้ง Facebook อย่าง Mark Zuckerberg ได้ประกาศว่า บริษัทจะมีชื่อเรียกใหม่ว่า Meta การตั้งชื่อใหม่โดยใช้การออกแบบเป็นหนึ่งในขั้นตอนของการพัฒนาสภาพแวดล้อมออนไลน์ใหม่ในวงกว้างเพื่อที่ผู้ใช้จะได้สามารถทำงาน สื่อสาร และเล่นเกมโดยใช้ชุดหูฟังความเป็นจริงเสมือนหรือ VR

จากคำกล่าวของ Zuckerberg ความเป็นจริงเสมือนของ Metaverse จะมีสมาชิกหลายพันล้านคนในอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีงานและแพลตฟอร์มจำนวนหลายล้านในการสร้างคอนเทนต์และการขายรวมถึงสำนักงานตัวแทนของธุรกิจขนาดใหญ่ ฯลฯ

คำกล่าวของมหาเศรษฐีรายนี้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อประเทศไทยและทั่วโลก การพัฒนา Metaverse เริ่มเร็วขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว

ทำไม Metaverse ถึงได้มีความสำคัญ?

ในปัจจุบัน ความหมายของ Metaverse เป็นสิ่งที่ทำการประเมินได้ยากเนื่องจากอุตสาหกรรมเพิ่งจะอยู่ในช่วงแรกของการพัฒนาเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ในการคำนวณข้อได้เปรียบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ข้อได้เปรียบที่เห็นได้อย่างชัดเจนได้เริ่มปรากฏให้เห็นแล้วในตอนนี้:

1. นี่เป็นขั้นตอนใหม่ของการพัฒนาอินเทอร์เน็ต

ทุกคนได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของ World Wide Web จากเว็บไซต์แบบทางเดียวเชิงเส้นไปสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการพัฒนาสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความเป็นไปได้ในการสร้างแบบจำลองทางเศรษฐกิจของตนเองบนบล็อกเชน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่มีเหตุผลในการกล่าวว่า Metaverse เป็นขั้นตอนถัดไปของการพัฒนาอินเทอร์เน็ต นั่นก็คือการเปลี่ยนจาก Web3 พร้อมข้อดีทั้งหมด (การกระจายศูนย์ เศรษฐกิจของคริปโต การเปิดกว้าง การทำงานหลายอย่าง) ไปสู่ World Wide Web ในเชิงพื้นที่

2. พื้นที่ใหม่สำหรับธุรกิจ

บริษัทและธุรกิจจำนวนมากกำลังลงทุนในความเป็นจริงทางดิจิทัลไม่ว่าจะเป็น MicroSoft, Google, Sony, Nvidia, Disney, Unity, Shopify, Roblox, Qualcomm, Apple, Sequoia Capital หรือ BlackRock นี่เป็นเพียงแค่ส่วนน้อยของบริษัทที่สนใจในการพัฒนา Metaverse เท่านั้น พื้นที่เสมือนเริ่มได้รับการนำมาใช้เป็นสำนักงานออนไลน์และสถานที่สำหรับการประชุม การบรรยาย และการพบปะ นโยบายของ Meta มีส่วนเป็นอย่างมากในเรื่องนี้ บริษัทแสดงให้เห็นด้วยตัวอย่างส่วนบุคคลว่าสามารถใช้ Metaverse ได้อย่างไร นอกจากนี้ ข้อจำกัดเนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อความเร็วในการใช้ Metaverse รวมถึงในธุรกิจด้วยเช่นกัน

3. งานใหม่

คำจำกัดความของ Metaverse จำเป็นต้องใช้แรงงานจำนวนมหาศาลของทีมของนักพัฒนา นักออกแบบ ผู้ทดสอบ ช่างเทคนิค และนักการตลาด จนเหมือนกับการเปิดโรงงานใหม่ที่มีตำแหน่งงานสำหรับงานหลายพันงาน

4. การลงทุนที่ดี

Metaverse VR เพิ่งจะได้รับแรงผลักดันในการพัฒนา หลายคนยังไม่เข้าใจมุมมองทั้งหมดและสิ่งที่สามารถทำได้โดยใช้เทคโนโลยีในอนาคตอันใกล้นี้ จะเป็นอย่างไรหากเราใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่ปีในการพัฒนา? บางทีภายในปี 2030 เราอาจจะได้เห็นความเป็นจริงเสมือนรูปแบบใหม่ทั้งหมดซึ่งเป็นตัวเลือกและสามารถใช้งานได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก็ได้ ดังนั้นในช่วงแรกของการพัฒนา Metaverse จึงถือว่าเป็นการลงทุนที่ดี

5. การชอบด้วยกฎหมายและการสนับสนุนทางกฎหมาย

Metaverse สามารถเป็นแรงจูงใจที่ดีในการสร้างชุดสินทรัพย์ที่ชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับที่ควบคุมความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ทรัพย์สิน และธุรกิจในความเป็นจริงเสมือน นี่คือหลักนิติศาสตร์ใหม่ของประเทศไทยซึ่งกำลังถูกสร้างขึ้นต่อหน้าต่อตาของพวกเรา

Metaverse ทำงานอย่างไร?

เนื่องจาก Metaverse ยังอยู่ในขั้นตอนของการสร้าง จึงไม่ได้มีเพียงวิธีการเดียวในการสร้างโลกเสมือนจริง และยังไม่มีมาตรฐานสำหรับวิธีการทำงาน การเป็น Meta เป็นเรื่องง่าย แต่คุณจะใช้ประโยชน์จากความเป็นไปได้ทั้งหมดได้อย่างไร? ในปัจจุบัน Metaverse VR ทำงานเป็นระบบนิเวศดิจิทัลที่สร้างขึ้นด้วยปัญญาประดิษฐ์ มีเพียงแค่แนวคิดความเป็นจริงเสมือนเชิงเส้นเท่านั้นที่ถูกนำมาใช้ โดยมีบริษัทผู้พัฒนารายหนึ่งที่นำเสนอ Metaverse ของตนเอง ในอนาคต ความเข้ากันได้ของความจริงเสมือนที่แตกต่างกัน ความสามารถในการพกพา/การจัดการข้อมูล และอินเทอร์เฟสผู้ใช้จะขึ้นอยู่กับการพัฒนาความเป็นจริงเสมือนของ Metaverse

เพื่อให้ Metaverse สามารถทำงานได้ สิ่งที่สำคัญก็คือการพัฒนาในสองด้านนี้ซึ่งได้แก่ VR และ AR หรือความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality - VR) และความเป็นจริงแต่งเติม (Augmented Reality - AR) ความเป็นจริงเสมือนคือการติดตั้งโลกสามมิติพร้อมการดื่มด่ำอย่างเต็มที่ไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเครือข่าย มีการใช้เครื่องมือเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความสมจริง เช้น แว่นตาพิเศษ ถุงมือ เสื้อกั๊ก และแม้แต่ชุดที่ช่วยถ่ายทอดความรู้สึกสัมผัสในขณะที่กำลังอยู่ใน Metaverse VR

ความเป็นจริงแต่งเติมคือการซ้อนทับของชั้นภาพเพิ่มเติมในโลกแห่งความเป็นจริง จึงมักได้รับการนำมาใช้ในเกม Metaverse เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของสถานการณ์ในเกม

วิธีการเข้าถึง Metaverse?

ไม่ได้มีเพียงวิธีเดียวในการดื่มด่ำไปกับความเป็นจริงเสมือน คุณไม่สามารถดาวน์โหลดแอปและจบลงเพียงแค่นั้น ยังมีบางอย่างที่คุณต้องทำในตอนนี้เพื่อการผสมผสานที่สมบูรณ์:

• ซื้อ Oculus Quest 2

นี่เป็นชุดหูฟังพิเศษที่มาในรูปแบบของแว่นตา อุปกรณ์นี้จะช่วยแสดงภาพต่างๆ ใน Metaverse ชุดหูฟังนี้ค่อนข้างจะมีราคาแพง แต่ก็เป็นเพียงอุปกรณ์เดียวที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความสุขของโลกเสมือนจริง

• ติดตั้งเกมหรือแอป Metaverse

ในปัจจุบัน โลกเสมือนจริงถือเป็นหน้าตาของแบรนด์ในหลายๆ ด้าน แตะละแบรนด์จะใช้วิธีการที่แตกต่างกันออกไปในการเข้าถึง วิธีการเข้าร่วมใน Metaverse น่ะเหรอ? คุณสามารถติดตั้งแอปหรือเกมที่มีส่วนขยายไปในโลกเสมือนจริงได้

• มีอินเทอร์เน็ตที่เสถียร

เนื่องจากโลกของ Metaverse ต้องใช้ระบบออนไลน์ทั้งหมด คุณจึงต้องมีชุดหูฟัง Quest 2 ที่เชื่อมต่อเข้ากับแหล่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ที่เสถียรอยู่ตลอดเวลา

เทคโนโลยี Metaverse

หัวข้อที่ซับซ้อนและมีหลากหลายแง่มุมอย่างการสร้าง Metaverse ของคุณจำเป็นต้องมีการใช้โซลูชันเทคโนโลยีล่าสุดและเกี่ยวข้องมากที่สุด ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทั่วโลก บริษัทผู้พัฒนาส่วนใหญ่จึงมักจะเลือกใช้เทคโนโลยีดังต่อไปนี้:

• ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence - AI) – เทคโนโลยีในการสร้างซอฟต์แวร์และจักรกลที่สามารถเลียนแบบความฉลาดของมนุษย์
• อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things - IoT) – ระบบของอุปกรณ์สำหรับการคำนวณที่เชื่อมต่อระหว่างกันเพื่อเก็บรวบรวมและส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายไร้สายโดยไม่จำเป็นต้องมีมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง
• ความเป็นจริงขยาย (Extended Reality - XR) ซึ่งประกอบไปด้วยความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality - VR) ความเป็นจริงแต่งเติม (Augmented Reality - AR) และความเป็นจริงแบบผสมผสาน (Mixed Reality - MR)
• ส่วนต่อประสานสมองกับคอมพิวเตอร์ (Brain-computer Interface - BCI) – ประเภทหนึ่งของอินเทอร์เฟส Neurocomputer ซึ่งการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกิดขึ้นโดยตรงในระดับสมอง
• การจำลองและการสร้างภาพ 3 มิติ (3D Modeling and Reconstruction) – การสร้างภาพสามมิติบนพื้นที่ใน Metaverse
• เทคโนโลยีสัมผัส (Haptic Technologies) – เครื่องมือและอุปกรณ์พิเศษสำหรับการเลียนแบบความรู้สึกทางกายภาพระหว่างการใช้ความเป็นจริงเสมือน
• การคำนวณแบบกระจาย (Edge Computing) – นี่สถาปัตยกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) แบบกระจายซึ่งข้อมูลของลูกค้าจะได้รับการประมวลผลตรงขอบของเครือข่ายใกล้กับแหล่งข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
• บล็อกเชนและการทำให้เป็นโทเคน (Blockchain and Tokenization) ของความสัมพันธ์ทางการเงินและเศรษฐกิจภายในโลกเสมือนจริง

เราใช้ Metaverse ทำอะไรในปัจจุบัน?

หัวข้อของ Metaverse ส่วนใหญ่ยังคงเต็มไปด้วยความโรแมนติกและความรู้สึกที่น่าตื่นเต้นของพื้นที่อันกว้างใหญ่ อย่างไรก็ตาม ยังมีส่วนที่ใช้งานได้จริงของความจริงเสมือน ในกรณีส่วนใหญ่นั้น Metaverse มักจะถูกใช้ในการสร้างความดื่มด่ำที่สมจริงที่สุดในโลกของเกมและการทำงานในประเทศไทย

เกมกลายมาเป็นสิ่งที่แพร่หลาย ทั้งหมดก็เป็นเพราะชุดเทคโนโลยี VR ที่ถ่ายทอดธีมของเกมได้อย่างสมจริงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และทำให้คุณดื่มด่ำไปกับสถานการณ์ของเกม เกมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2023 ในการจัดอันดับของ Metaverse คือ Decentraland, The Sandbox, Axie Infinity, Roblox ฯลฯ

การใช้โลกเสมือนในที่ทำงานได้รับความนิยมเนื่องจากแนวโน้มของโลกในการเปลี่ยนไปทำงานทางไกลระหว่างการแพร่ระบาดของโรครวมถึงการทำให้กระบวนการทางธุรกิจเป็นแบบดิจิทัล ในกรณีนี้ บริษัทต่างๆ จะใช้ Metaverse ในการบรีฟงาน การประชุมทางธุรกิจ การพบปะ และกิจกรรมขององค์กรที่พนักงานสามารถเข้าร่วมได้ในฐานะอวาตาร์โดยไม่จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อในอาณาเขตและการสัมผัสทางกายภาพ

ในขณะเดียวกัน ผู้นำของ Metaverse คือ Meta ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีมูลค่าตลาดในทุกด้านรวมถึง Facebook และ Instagram อยู่ที่ $452 พันล้าน โปรเจ็กต์เสมือนจริงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของ Meta คือ Horizon Worlds (เหมาะสำหรับผู้ใช้และผู้พัฒนาเชิงเส้น)

Epic Games ซึ่งเป็นผู้สร้างเกมยอดนิยมที่มีชื่อเสียงเป็นผู้ลงทุนหลักใน Metaverse ในปี 2021 บริษัทร่วมกับ Sony Group Corp ได้ทุ่มเงินไปกับการพัฒนามากกว่า $1 พันล้าน

Microsoft และผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่าง Microsoft Teams ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์สำหรับการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอและการสื่อสารขององค์กรถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ Slack และ Zoom

เมื่อใดที่ Metaverse เต็มรูปแบบจะมาถึง?

แน่นอนว่า ความเป็นไปได้ของ Metaverse นั้นน่าประหลาดใจอยู่แล้ว สำหรับหลายคนนั้น การสร้างโลกเสมือนจริงที่เหมือนจริงมากที่สุดได้กลายเป็นแนวคิดของการค้นพบชั่วชีวิต อย่างไรก็ตาม อาจจะเร็วเกินไปในการกล่าวว่า Metaverse ได้กลายเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบและสามารถเข้าถึงได้สำหรับการทำงาน การสื่อสาร การเทรด การบันทึกข้อมูล ฯลฯ Metaverse ยังคงอยู่ในระหว่างการพัฒนาในขณะที่ปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขหลายอย่างเป็นสิ่งที่ขัดขวางการแพร่กระจายของแนวคิดเกี่ยวกับระบบเสมือนจริงและการเข้าถึงจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ปัญหาอีกประการหนึ่งก็คือความสามารถในการจ่ายเงินซื้อฮาร์ดแวร์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป หากการผลิตสามารถทดแทนเครื่องมือเสมือนจริงขนาดใหญ่ได้อย่างราบรื่น Metaverse ก็จะได้รับการนำมาใช้มากขึ้น

ความท้าทายอีกประการหนึ่งสำหรับผู้พัฒนาก็คือการเพิ่มประสบการณ์ในส่วนของการสัมผัส ในปัจจุบัน มีการพัฒนาในส่วนนี้เป็นจำนวนมาก เช่น อุปกรณ์สำหรับการสัมผัสและการได้ยินรวมถึงการส่งผ่านความรู้สึกเจ็บปวด มีเครื่องมือที่เกี่ยวข้องจำนวนมากที่สามารถนำมาใช้งานได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ยุคของ Metaverse ก็จะมาถึงอย่างรวดเร็ว

Metaverse จะส่งผลกระทบต่ออนาคตอย่างไร?

Metaverse ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้แพร่หลายมาก พื้นที่เสมือนจริงที่ได้รับการยอมรับมากขึ้นยังอยู่ระหว่างการพัฒนา อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ที่เราจะพูดด้วยความมั่นใจอย่างเต็มที่ว่า Metaverse จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของมนุษย์เป็นอย่างมากอย่างแน่นอน

ลองดูในเรื่องนี้สิ Metaverse ได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในเชิงปฏิบัติของโลกเสมือนจริง ในปัจจุบัน Metaverse ไม่ได้เป็นแค่เกมสำหรับเกมเมอร์ที่รักความท้าทายเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่สำหรับการทำงาน การพบปะ การขายสินค้า และการทำธุรกิจ รวมถึงเป็นแหล่งรายได้เพิ่มเติมที่ไม่ขึ้นอยู่กับตำแหน่งทางกายภาพของบุคคลอีกด้วย

Metaverse กำหนดทิศทางของการพัฒนาซอฟต์แวร์ และได้กลายเป็นตัวกระตุ้นในหลายๆ ทางสำหรับการเพิ่มการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) และความเป็นจริงแต่งเติม (XR) ในปัจจุบัน Metaverse ยังมอบงานใหม่ อาชีพใหม่ และการปรับทิศทางวิชาชีพของความเชี่ยวชาญพิเศษต่างๆ อีกหลายพันตำแหน่งซึ่งถือเป็นความช่วยเหลือที่ดีในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่มีความเสถียรแบบนี้

ข้อดีและข้อเสียรวมถึงความท้าทายของ Metaverse

Metaverse มีข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนหลายประการ ข้อดีข้อแรกและสำคัญที่สุดก็คือการปฏิวัติทางเทคโนโลยีและการคิดใหม่เกี่ยวกับการใช้ความจริงเสมือนในชีวิตประจำวัน การสร้างอุตสาหกรรมจริงซึ่งรวมถึงผู้พัฒนาและผู้ผลิตอุปกรณ์จำนวนมาก และการทดสอบความสามารถทางเทคโนโลยีใหม่ในระดับสูง ผู้คนหลายพันคนมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาในทุกวันในขณะที่ผู้คนหลายหมื่นหลายแสนคนเรียนรู้ความเป็นไปได้ของ Metaverse และเริ่มใช้โลกเสมือนจริงในชีวิตประจำวันของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ในการสร้างสิ่งใหม่ๆ นั้น ปัญหาที่ยังขัดแย้งจำนวนมากของ Metaverse ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข สิ่งเหล่านี้คือข้อเสียที่ขัดขวางการนำไปใช้งานในวงกว้างอย่างแท้จริง

ตัวอย่างเช่น ปัญหาใหญ่สำหรับ Metaverse คือความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้และการนำกฎความปลอดภัยของข้อมูลออนไลน์ไปใช้ในทางที่ผิดรวมถึงการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ที่ล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว

ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องสร้างกฎระเบียบใหม่ขึ้นเพื่อควบคุมข้อมูลและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลภายใน Metaverse

ปัญหาอีกเรื่องหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นระหว่างผู้เข้าร่วมกับผู้พัฒนาก็คือการคุ้มครองลิขสิทธิ์และเนื้อหาที่สร้างขึ้นในจักรวาลดิจิทัล

และปัญหาสุดท้ายที่จะต้องได้รับการควบคุมและกำหนดกรอบการทำงานอย่างเร่งด่วนก็คือการเซ็นเซอร์ สิ่งใดบ้างที่สามารถสร้างขึ้นได้ใน Metaverse และเนื้อหาใดบ้างที่ไม่สามารถโพสต์ได้? ผู้เขียนจะต้องมีกรอบศีลธรรมและกฎหมายสำหรับใช้เป็นแนวทาง

บทสรุป

ในโลกของ Metaverse นั้น คุณสามารถทำอะไรก็ได้ มนุษย์เพิ่งจะเริ่มทดสอบความเป็นไปได้ของความจริงเสมือนทั้งในทางอาชีพและครัวเรือน นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความเป็นไปได้เท่านั้น ในอนาคต จะต้องมีการนำเสนอกระบวนการต่างๆ ใน Metaverse ซึ่งเทียบได้กับการสำรวจและการค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่ ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนในประเทศไทยจะต้องสามารถสมัครใช้งาน Metaverse ได้เพื่อที่คนไทยจะได้สามารถได้รับประโยชน์ทางดิจิทัลจาก Metaverse