ประเภทของ NFT และวิธีการทำเงินจาก NFT?
Description
NFT เป็นทิศทางที่ดีสำหรับการลงทุนและการทำเงิน ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงการทำเงินจาก NFT กัน
โทเคน NFT เป็นเซกเตอร์ที่ได้รับความนิยมของคริปโตเคอร์เรนซีเนื่องจากโทเคนดังกล่าวมีมูลค่าสูง อีกทั้งคุณยังสามารถทำพาสซีฟอินคัมจาก NFT ได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่จำเป็นก็คือการทำความเข้าใจประเภทต่างๆ ของโทเคนเพื่อที่คุณจะได้สามารถตอบคำถามหลักได้ว่า คุณจะทำเงินจาก NFT ได้อย่างไร?
NFT คืออะไร?: คำจำกัดความที่ถูกต้องของโทเคนสุดพิเศษ
NFT (โทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้) เป็นโทเคนที่เฉพาะเจาะจงซึ่งไม่สามารถแทนที่ได้โดยโทเคนอื่น ความเฉพาะเจาะจงดังกล่าวคือมูลค่าหลักของ NFT และมูลค่าดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับความพิเศษของโทเคนนั้นๆ เราจะพูดถึงคำจำกัดความและความสามารถของ NFT โดยละเอียดในบทความของเรา
สิ่งที่แตกต่างไปจากคริปโตเคอร์เรนซีหรือสกุลเงินเฟียตก็คือ โทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้จะไม่สามารถแทนที่ได้โดย NFT อื่นๆ ตัวอย่างเช่น แต่ละ Bitcoin ของเหรียญจำนวน 21,000,000 เหรียญเป็นสิ่งที่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ ไม่ว่าคุณจะได้เหรียญที่ 1 เหรียญที่ 10 เหรียญที่ 137 หรือเหรียญที่ 1,000,071 เหรียญดังกล่าวจะไม่มีความแตกต่างและไม่มีความเฉพาะเจาะจง เหมือนกับเงินทั่วไปที่ธนบัตรทุกใบจะเหมือนกันและมีมูลค่าที่เท่ากันนั่นเอง
ในทางกลับกัน NFT เป็นสิ่งที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้โดยใช้โทเคนเดียวกันโดยไม่มีการสูญเสียคุณภาพหรือมูลค่า NFT แต่ละชิ้นจะมีความเฉพาะเจาะจงเป็นของตัวเอง
สิ่งที่ทำให้ NFT มีมูลค่าในเศรษฐกิจของตลาดคริปโตเคอร์เรนซี?
ความพิเศษของ NFT คือพารามิเตอร์หลักสำหรับมูลค่าของโทเคนประเภทนี้ งานศิลปะที่ได้รับการแปลงให้เป็นดิจิทัล ภาพที่มีแบรนด์ โลโก ภาพถ่าย วิดีโอ เพลง และคอลเลกชันพิเศษของศิลปินดิจิทัลสามารถนำมาแปลงเป็นโทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้เพื่อนำไปขายได้ รหัสการระบุที่เฉพาะเจาะจงและบล็อกเชนจะช่วยให้แน่ใจได้ถึงการไม่เปลี่ยนแปลงและความปลอดภัยของพารามิเตอร์พิเศษ
ยิ่งมูลค่าทางศิลปะหรือมูลค่าในเชิงปฏิบัติของโทเคนพิเศษสูงมากเท่าใด ราคาก็จะยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น มีกรณีที่เป็นที่รู้จักกันดีของบริษัทบล็อกเชนของอเมริกาอย่าง Injective Protocol บริษัทดังกล่าวได้ซื้อคืนงานที่มีมูลค่าของศิลปินร่วมสมัยชื่อดังอย่าง Banksy ที่มีชื่อว่า "Morons" งานดังกล่าวมีมูลค่าอยู่ที่ $95,000 อย่างไรก็ตาม ตามคำกล่าวของ Injective Protocol นั้น Morons ได้ถูกเผาสดออกอากาศทางอินเทอร์เน็ต และในขณะเดียวกัน สำเนาของงานดังกล่าวก็ได้รับการเปิดตัวในฐานะที่เป็นโทเคน NFT ไม่มีผลงานศิลปะต้นฉบับในเชิงกายภาพอยู่อีกต่อไป มีเพียงแค่สำเนาแบบดิจิทัลเท่านั้น นั่นก็หมายความว่า สำเนาดิจิทัลดังกล่าวมีค่ามากยิ่งกว่าเดิมเนื่องจากเป็นเพียงสำเนาเดียวของผลงานชิ้นนั้น
มีตัวเลือกตามหมวดหมู่สำหรับการเพิ่มมูลค่าให้แก่ NFT ในช่วงที่โทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงนั้น ศิลปินจำนวนมากได้สร้างงานคอลเลกชันพิเศษที่ได้รับการดัดแปลงสำหรับ NFT
ตัวอย่างเช่น นักร้องอย่าง Grimes ซึ่งมีความสัมพันธ์กับ Elon Musk ผู้เป็นนายใหญ่แห่ง Tesla และ SpaceX ได้เปิดตัวคอลเลกชันโทเคน NFT ของเธอในปี 2021 หรือนักออกแบบตัวอักษรชื่อดังอย่าง Pokras Lampas ที่ได้นำเสนอผลงานในรูปแบบของ NFT
NFT ประเภทต่างๆ ที่มีอยู่ในตลาด
คุณสามารถแบ่งโทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้ออกเป็นหลายประเภทตามเนื้อหาของศิลปิน อาทิ:
อวาตาร์โซเชียลมีเดีย
ในช่วงต้นปี 2022 ได้ปรากฏ NFT ประเภทใหม่ขึ้นในรูปแบบของอวาตาร์ในหน้าส่วนบุคคลบนเครือข่ายสังคม ตัวอย่างที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ Twitter ผู้ใช้สามารถเชื่อมโยงวอลเล็ตคริปโตเคอร์เรนซีเข้ากับบัญชีของตัวเอง และใส่ NFT จากคอลเลกชันของตัวเองเป็นรูปโปรไฟล์
งานศิลปะชิ้นพิเศษ (มีเพียงชิ้นเดียวในโลก)
เหล่านี้คือโทเคนจากคอลเลกชันของศิลปิน แต่ละชิ้นจะมีคุณค่าทางศิลปะและมีความเฉพาะเจาะจงสูงมาก ตัวอย่างที่โด่งดังมากที่สุดได้แก่ "Everydays: The First 5000 Days" โดยศิลปินที่มีชื่อว่า Beeple ในเดือนมีนาคม 2021 งานดังกล่าวได้รับการขายที่ Christie's ในราคา $69.3 ล้าน นอกจากนี้ "Everydays: The First 5000 Days" ยังถือเป็นโทเคนที่มีราคาแพงมากที่สุดที่มีอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย
โทเคนที่เป็นคอลเลกชันของ NFT
ต่อไปนี้คือตัวอย่างของคอลเลกชันที่ขายโดยบริษัทต่างๆ โทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้ประเภทนี้จะมีคอนเซปต์ที่เหมือนกันคือ การออกคอลเลกชันสามารถทำเงินได้หลายพันหรือแม้แต่หลายแสน โทเคนประเภทนี้จึงเป็นหนึ่งในโทเคนที่พบได้มากที่สุด
ตามข้อมูลบริการของ Dappradar นั้น คอลเลกชันที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด 5 อันดับแรกสำหรับการขาย NFT ได้แก่:
- Axie Infinity บนบล็อกเชนของ Ethereum และ Ronin
- CryptoPunks, Bored Ape Yacht Club, Mutant Ape Yacht Club, Art Blocks บนบล็อกเชนของ Ethereum
ภาพถ่าย ภาพหน้าจอของการติดต่อ และโพสต์โซเชียลมีเดียสำคัญในประวัติศาสตร์
ทวีตแรกของ Jack Dorsey บน Twitter คือตัวอย่างของโทเคนประเภทนี้ ในฐานะที่เป็น NFT ในตลาด OpenSea ทวีตดังกล่าวได้รับการขายในราคา $2.9 ล้าน
NFT กับเพลง
ตัวอย่างของ NFT ดังกล่าวได้แก่วงดนตรีจากอังกฤษอย่าง Muse ในอัลบัม “Will of the People” ซึ่งติดชาร์ตเพลงฮิตของอังกฤษในช่วงต้นเดือนกันยายน 2022
NFT สำหรับ GameFi และ Metaverse
กำไรของ NFT ไม่ได้ถูกนำไปใช้งานในด้านใดด้านหนึ่งของโทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้เพราะเซกเมนต์อื่นของการใช้งานและการสร้างโทเคนที่พบได้ทั่วไปก็คือในอุตสาหกรรมเกมและ Metaverse
ตั๋วเข้าชมเหตุการณ์ต่างๆ
NFT สามารถทำหน้าที่พิเศษต่างๆ เช่น การให้ผู้เข้าร่วมเข้าชมเหตุการณ์ เรื่องดังกล่าวถือว่าสะดวกเป็นอย่างมากเนื่องจากโทเคนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถปลอมแปลงได้ หนึ่งในเทศกาลเพลงที่ใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง Coachella ได้เปิดตัวคอลเลกชัน NFT ร่วมกับแพลตฟอร์ม FTX คอลเลกชันดังกล่าวประกอบไปด้วยสามรูปแบบคือการเข้าชมเทศกาลตลอดชีวิต คอลเลกชันของภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุดจากเทศกาล และ 10 อันดับโปสเตอร์ในตำนานของ Coachella
ไม่ได้มี NFT เพียงประเภทเดียวเท่านั้นที่ได้รับการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมคริปโต งานทุกประเภทสามารถนำมาทำให้เป็นโทเคนและขายเป็นผลงานดิจิทัลที่เฉพาะเจาะจงได้ทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์ในทรัพย์สินดิจิทัล การสมัครใช้บริการแพลตฟอร์มบริการสตรีมมิง ภาพเขียน หรือสินค้าที่มีแบรนด์
วิธีการทำเงินจาก NFT สำหรับนักลงทุนมือใหม่และผู้ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลมือเก๋า
สำหรับคนจำนวนมากนั้น การได้รับความนิยมของ NFT มักจะเกี่ยวข้องกับราคาที่สูงและการทำกำไรจำนวนมหาศาล อันที่จริงนั้น คอลเลกชันของโทเคนจำนวนมากได้กลายมาเป็นตำนานและประสบความสำเร็จอย่างสูงในโลกของคริปโตเคอร์เรนซี แต่ NFT สามารถทำเงินให้คุณได้อย่างไรในปัจจุบัน? มีวิธีการทำเงินจาก NFT แบบใดบ้าง? และเราจะทำกำไรจาก NFT ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของโทเคนสุดพิเศษได้อย่างไร?
โดยทั่วไปนั้น เราสามารถแยกประเด็นต่างๆ ที่มีส่วนในการทำเงินของโทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้ได้ดังต่อไปนี้
- คอนเซ็ปต์การทำเงิน
NFT ในคอนเซ็ปต์การทำเงิน (การเล่นเพื่อทำเงิน การเรียนรู้เพื่อทำเงิน การเคลื่อนไหวเพี่อทำเงิน ฯลฯ) ทำหน้าที่เป็นอวาตาร์ดิจิทัล วัตถุส่วนกลางในการเล่นส่วนบุคคล หรือรางวัลที่มีค่า มูลค่าของ NFT จะขึ้นอยู่กับกิจกรรมของเกม ยิ่งผู้เล่นทำกิจกรรมมากขึ้นเท่าใด มูลค่าของโทเคนก็จะยิ่งสูงขึ้น ตัวอย่างของเกมที่ประสบความสำเร็จได้แก่ STEPN, Axie Infinity, Illuvium ฯลฯ
- การถือครอง NFT
ผลิตภัณฑ์หลายตัวในช่วงแรกของการสร้างตลาด NFT เป็นโทเคนที่ถือครองฟรีซึ่งเป็นของกำนัลสำหรับผู้ใช้โทเคน ตัวอย่างเช่น ในปี 2017 ผู้สร้างคอลเลกชันในตำนานอย่าง CryptoPunks ได้เสนอ NFT โปรโมชันจำนวน 5,000 เหรียญให้แก่ทุกคนในราคาเพียงแค่ไม่กี่เซ็นต์เท่านั้น ในปัจจุบัน คอลเลกชันดังกล่าวติดอันดับท็อปของคอลเลกชันที่มีราคาสูงที่สุดของโลก และทำกำไรหลายพันเปอร์เซ็นต์ให้แก่ให้แก่นักลงทุนผู้ถือครอง NFT
- การทำเหรียญสำหรับคอลเลกชันอิสระของ NFT
สำหรับผู้สร้างสรรค์เนื้อหาศิลปะจำนวนมากนั้น การทำเหรียญ NFT ถือเป็นตัวเลือกในการสร้างรายได้ที่ดีเพราะไม่ยุ่งยาก จึงเหมาะสมสำหรับผู้ใช้คริปโตเคอร์เรนซีที่เป็นมือใหม่และมือโปร ข้อดีของวิธีการนี้ก็คือกำไรจากการขายจำนวนมาก แต่ข้อเสียเปรียบก็คือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการทำเหรียญและการตลาดรวมถึงการแข่งขันที่สูงมากระหว่างผู้สร้างผลงาน
- การสะสม NFT
โปรเจ็กต์ DeFi จำนวนมากอนุญาตให้ลูกค้าสะสมโทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้ นี่เป็นตัวเลือกที่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณยึดติดกับแนวคิด HODL กลยุทธ์ดังกล่าวสามารถเข้ากันได้ดี และทำให้คุณได้รับพาสซีฟอินคัมจาก NFT
- ค่าสิทธิ์จากการขาย
ระหว่างที่ทำการสร้าง NFT นั้น ผู้ออกโทเคนสามารถกำหนดเปอร์เซ็นต์ของค่าสิทธิ์พิเศษที่จะได้รับการชำระเมื่อทำการขายในแต่ละครั้งในตลาดรอง เปอร์เซ็นต์ดังกล่าวสามารถอยู่ที่ 3%, 5% หรือแม้แต่ 10% ของการขาย นี่จึงเป็นอีกโอกาสหนึ่งในการสร้างพาสซีฟอินคัมจาก NFT และเป็นโซลูชันที่สะดวกสำหรับผู้สร้างคอลเลกชัน
การสร้างและการขาย NFT
วิธีการสร้าง NFT? การสร้าง NFT เป็นสิ่งที่ง่ายมาก การทำเหรียญโทเคนสำหรับบริษัทและศิลปินส่วนบุคคลจะเหมือนกัน ทั้งนี้ NFTยังถือว่าเป็นการลงทุนที่ดี ความแตกต่างเดียวก็คือระยะเวลาและความซับซ้อนของกระบวนการสร้างคอลเลกชัน ตัวอย่างเช่น ศิลปินอิสระหรือกลุ่มศิลปินสามารถทำให้ผลงานของตัวเองเป็นดิจิทัลและนำไปขายเป็น NFT ในตลาดใดก็ได้ นี่คือการดำเนินการพื้นฐานที่ไม่จำเป็นต้องใช้แผนโปรโมทเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ยอดขายจะปรากฏขึ้นผ่านการพัฒนาการจดจำคอลเลกชันและการเติบโตของชุมชนที่ภักดี ทั้งนี้ไม่มีกิจกรรมเพิ่มเติมภายในกลยุทธ์การตลาด
ในขณะเดียวกัน การเปิดตัวคอลเลกชัน NFT จำนวนมากแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาการโปรโมทการตลาดที่มีรายละเอียดมากขึ้นรวมถึงค่าใช้จ่ายทางการเงินและเวลาจำนวนมาก
จากมุมมองเรื่องเทคโนโลยี กระบวนการในการสร้าง NFT จะแบ่งออกเป็นหลายช่วง คุณจะสามารถเข้าใจการทำเงินจาก NFT ได้เมื่อคุณปฏิบัติตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้:
- การพัฒนาแนวคิด
นี่เป็นช่วงแรกและเป็นจุดเริ่มต้นของงานทั้งหมด ในขั้นตอนนี้ สิ่งที่สำคัญก็คือการกำหนดมูลค่าทางศิลปะของผลงานดิจิทัล ความหมาย และหลักการทั่วไปสำหรับโทเคน NFT
- การเลือกบล็อกเชน
มีบล็อกเชนจำนวนมากที่มีมาตรฐานสัญญาอัจฉริยะสำหรับ NFT คุณสามารถเลือกบล็อกเชนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่าง Ethereum ได้ คอลเลกชันโทเคนจะได้รับรูปแบบการจดจำเครือข่ายระหว่างผู้ใช้คริปโตเคอร์เรนซี คุณสามารถใช้บล็อกเชน TRON, Binance Smart Chain, Solana, NEAR, Polygon, Ronin, WAX ฯลฯ ได้เช่นกัน
- การสร้างภาพสำหรับการแปลงให้เป็นดิจิทัล
การสร้าง NFT: นี่คือช่วงที่คุณจะสร้างตัวผลงานที่คุณจะนำเสนอเป็น NFT คุณสามารถสร้างโทเคนได้ในเกือบจะทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย วิดีโอ GIF หรือเสียง
- การเลือกตลาด
ตามข้อมูลของ Dappradar นั้น มีแพลตฟอร์มมากกว่า 80 แห่งสำหรับการเทรดเงิน NFT ปัจจัยหลักในการเลือกตลาดก็คือการเข้ากันได้ของตลาดและบล็อกเชนที่คุณวางแผนว่าคุณจะทำเหรียญ NFT
แพลตฟอร์มและตลาด NFT ที่ได้รับความนิยมสำหรับโทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้ประเภทต่างๆ
แพลตฟอร์มและตลาด NFT ที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการลงทุนใน NFT ประจำปี 2023 ได้แก่:
OpenSea
เข้ากันได้กับ Ethereum, Avalanche, BNB Chain, ETH, Polygon และ Solana มีเทรดเดอร์ที่ลงทะเบียนทั้งหมด 2,610,642 คน และมีปริมาณการซื้อขายมากกว่า $34.2 พันล้าน
ตลาด Axie
ตลาดดังกล่าวสามารถเข้ากันได้กับ Ethereum และ Ronin มีเทรดเดอร์ที่ลงทะเบียนจำนวน 2,183,930 คน และมีปริมาณการซื้อขายมากกว่า $4.26 พันล้าน
Magic Eden
นี่เป็นตลาดที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับบล็อกเชน Solana มีเทรดเดอร์ลงทะเบียนจำนวน 1,418,012 คน และมีปริมาณการซื้อขายมากกว่า $2.07 พันล้าน
NBA Top Shot
รองรับบล็อกเชน FLOW มีเทรดเดอร์ 570,933 คน และมีปริมาณการซื้อขาย $979.93 ล้าน
CryptoPunks
รองรับบล็อกเชน Ethereum มีเทรดเดอร์ 7,461 คน และมีปริมาณการซื้อขาย $3.02 พันล้าน
แพลตฟอร์มและตลาด NFT ของ Mobox (BNB Chain), LooksRare (Ethereum), BloctoBay (Flow), AtomicMarket (WAX), Immutable X Marketplace (Immutable X), Rarible (Ethereum, Tezos) ฯลฯ ได้รับการใช้งานบ่อยครั้งเช่นกัน
อนาคตของ NFT ในระยะสั้นและระยะกลาง?
อนาคตของ NFT ยังคงเป็นไปได้ด้วยดีในระดับปานกลาง แม้ว่าตลาดโดยรวมจะตกต่ำลง แต่คอลเลกชันจำนวนมากยังสามารถขายได้อยู่ ตัวอย่างเช่น คอลเลกชันแรกของ NFT โดย Donald Trump อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาได้รับการขายภายในเวลาไม่ถึงวันหลังจากที่เกิดขาย และทำเงินให้ผู้สร้างผลงานเกือบ 4.5 ล้านดอลลาร์
วิธีการทำเงินจาก NFT? แบรนด์ NFT ชื่อดังยังคงพัฒนาและมอบข้อเสนอโซลูชันเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้แก่ผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น Bored Ape Yacht Club จะเปิดตัว Metaverse และโทเคนสำหรับเกม เป็นต้น
ตลาดของโทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้พร้อมด้วยคริปโตเคอร์เรนซีอื่นๆทั้งหมดอยู่ในช่วงของการสะสมและการรวบรวมอำนาจ ผลงานที่โปรไฟล์สูงส่วนใหญ่ได้รับการเลื่อนออกไปเพื่อรอการเริ่มต้นใหม่และความสนใจในคริปโตเคอร์เรนซีที่เพิ่มมากขึ้น ในปัจจุบัน ด้านที่มองไม่เห็นของผลงานที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ได้แก่การอัปเกรดทางเทคโนโลยี การสร้างกลยุทธ์ และการทดสอบรูปแบบต่างๆ ของ NFT
ความเสี่ยงของการลงทุนใน NFT
กฎทั่วไปสำหรับคริปโตเคอร์เรนซีจะจำกัดความเสี่ยงในการใช้โทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้ ทั้งนี้จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ราคาของ NFT จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองของโลก พลังด้านลบในอุตสาหกรรมคริปโต ปัญหากับผู้ควบคุมดูแล และการจำกัดจากหน่วยงานกฎหมาย ทั้งหมดนี้คือปัญหาที่เกิดกับสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงซึ่งไม่ใช่แค่กับ NFT เท่านั้น นักลงทุนอาจจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวเช้นกัน
สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ความปลอดภัยของวอลเล็ตดิจิทัลส่วนบุคคลและการใส่ใจในความโปร่งใสและเอกภาพของอุตสาหกรรม ปัญหาเกี่ยวกับ NFT ไม่ได้มาจากแรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงและวิกฤติต่างๆ ของโลก แต่มาจากการไม่ใส่ใจในการเงินดิจิทัลและการขาดความปลอดภัยขั้นต่ำ
หลักการพื้นฐานและเคล็ดลับสำหรับการจัดการการลงทุนใ โทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้ที่มีประสิทธิภาะ
คำแนะนำหลักสำหรับว่าที่เจ้าของ NFT หรือเจ้าของ NFT ในปัจจุบันก็คือการทดสอบโทเคนด้วยตัวคุณเอง การออกโทเคน การจัดเก็บ การใช้งาน และการทำเงิน คุณจะไม่เข้าใจอุตสาหกรรมนี้ได้เลยหากคุณไม่ลองสร้าง NFT ของคุณเองดูสักครั้ง รวมถึงทดสอบโอกาสของตลาด และสร้างความคิดเห็นของคุณเองที่มีต่อโทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้
NFT ในประเทศไทย
คริปโตเคอร์เรนซีในประเทศไทยสามารถนำมาใช้เป็นระบบการชำระเงินทางเลือก การมอบการธนาคารที่รวดเร็วให้แก่ประชาชน หรือการใช้เป็นสกุลเงินหลัก (เหมือนอย่างที่เอลซัลวาดอร์ได้ทำมาแล้ว) นี่ถือเป็นการปฏิบัติทั่วไป และไม่ได้เป็นกระบวนการที่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด แต่ NFT มีประโยชน์จริงหรือไม่? เราจะสามารถใช้โทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้ในการพัฒนาประเทศได้อย่างไร?
NFT จะให้ประโยชน์หากได้รับการนำมาใช้ดังต่อไปนี้:
-
เงินดิจิทัลที่มีมูลค่าเท่ากับการโอนสิทธิ์ในทรัพย์สินของประเทศที่มีขนาดใหญ่อย่างประเทศไทย สัญญาการซื้อขายทรัพย์สินและข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการทำธุรกรรมจะสามารถเชื่อมโยงเข้ากับ NFT ได้ ด้วยเหตุนี้ จึงจะต้องมีฐานข้อมูลที่สมบูรณ๋และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันพร้อมด้วยระบบการจัดเก็บข้อมูลที่โปร่งใสและการเข้าถึงข้อมูลที่ทำได้ง่ายไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ส่วนใดของประเทศก็ตาม
-
NFT กับการต่อสู้กับการคอร์รัปชัน
โทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้ในฐานะผลิตภัณฑ์ของบล็อกเชนเป็นระบบที่เปิดกว้างมากที่สุดและน่าเชื่อถือมากที่สุดในการต่อสู้กับการคอร์รัปชันในทุกระดับของรัฐบาล คุณสามารถใช้ NFT เป็นตัวอย่างของสิทธิบัตร การให้อนุญาต โปรแกรมการพัฒนาพิเศษสำหรับภูมิภาค (เช่น จังหวัดอำนาจเจริญ นครพนม ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น) ความโปร่งใสของโปรแกรมดังกล่าวจะกำจัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและการล็อบบี้ผลประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทำให้ลดระดับการคอร์รัปชันโดยรวมของประเทศได้
- ระบบการศึกษากับ NFT
โทเคนพิเศษสามารถเป็นพื้นฐานสำหรับบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เรียนและระบบฐานข้อมูลของผู้เรียนรวมถึงสถาบันการศึกษาทั้งหมดในประเทศไทยได้
- NFT กับการท่องเที่ยวในประเทศไทย
คอลเลกชันพิเศษของโทเคนแบบลิมิเต็ดเอดิชันสามารถได้รับการออกสำหรับประเทศไทยและแต่ละจังหวัด (กรุงเทพฯ พัทยา สุโขทัย พระนครศรีอยุธยา ฯลฯ) การตลาดและการโปรโมทดังกล่าวจะช่วยเพิ่มการมองเห็นถึงสิ่งที่น่าสนใจของประเทศ และปูทางไปสู่รายได้ที่มากขึ้นจากศักยภาพของการท่องเที่ยว
บทสรุป
โทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้เป็นแนวโน้มที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมคริปโต เราคาดการณ์ว่าจะมีการใช้ NFT เป็นโทเคนดิจิทัลมากขึ้นสำหรับคุณค่าที่จับต้องไม่ได้และความเฉพาะ NFT จะยังคงเป็นรายการของนักสะสมต่อไป เช่น ผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซียังคงเดินหน้าต่อไปเนื่องจากตลาดของโทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้ยังคงเติบโต และคุณจะได้เห็นการก้าวกระโดดครั้งใหม่ของการสร้าง NFT ในเร็วๆ นี้ หากคุณมีคำถามว่า NFT สามารถทำเงินได้จริงหรือไม่? เราสามารถตอบได้เลยว่า จริง NFT เป็นการลงทุนที่ดี และพาสซีฟอินคัมจาก NFT ก็สามารถทำกำไรได้จริง ดังนั้น ราคาของเทรดเดอร์ที่ขาย NFT ของตัวเองจึงดูมีอนาคตและมีมูลค่าเป็นอย่างมาก