โทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้ (Non-Fungible Token -NFT): ความหมายและการทำงาน

Description

NFT เป็นสินทรัพย์คริปโตกราฟิกบนบล็อกเชนซึ่งมีรหัสการระบุที่เฉพาะเจาะจงและมีเมตะดาต้าที่แยกความแตกต่างของ NFT ออกจากกัน ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบิทคอยน์และบล็อกเชนสามารถดูได้ที่บล็อก exex.com

ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีได้ใช้คำและแนวคิดใหม่ๆ จำนวนมาก หนึ่งในคำและแนวคิดที่พบได้บ่อยครั้งมากที่สุดก็คือ NFT

NFT คืออะไร?

เมื่อแปลมาจากภาษาอังกฤษ ("Non-fungible token") คำนี้จะมีความหมายว่า โทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้ และมักจะใช้กับกรรมสิทธิ์และการเป็นเจ้าของวัตถุเสมือนจริงต่างๆ:

• ข้อความ
• รูปภาพ
• เสียง
• ไอเท็มเกม
• ตัวละคร
• ชื่อโดเมน
• คลับการ์ด ฯลฯ

ในขณะที่คริปโตเคอร์เรนซีคือบางสิ่งที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ โทเคน NFT อาจจะเป็นรูปภาพซึ่งไม่เท่ากับโทเคน NFT จากผู้ใช้รายอื่นเนื่องจากเป็นรูปภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจากผู้สร้างคนละคนกันในขณะที่มูลค่าของ NFT ก็จะแตกต่างกันออกไป

NFT แต่ละรายการมีความเฉพาะตัวและแตกต่างกันออกไป คุณไม่สามารถทำสำเนาของ NFT ได้ NFT ทั้งหมดมีข้อมูลการระบุตัวตนซึ่งได้รับการบันทึกเอาไว้ในสัญญาอัจฉริยะ ข้อมูลดังกล่าวทำให้ NFT แต่ละชิ้นมีความแตกต่างไปจากกันและกัน

ประวัติความเป็นมาของ NFT แรกได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อมีการพัฒนาโซลูชันต่างๆ อย่าง Colored Coins ในปี 2013 และ Counterparty ในปี 2014 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้กลายมาเป็นรากฐานสำหรับการแปลงให้เป็นโทเคนสำหรับสินทรัพย์บนบล็อกเชนของบิทคอยน์

ตัวอย่างของ NFT

ในปัจจุบัน มี NFT และคอลเลคชันของ NFT เป็นจำนวนมาก หนึ่งใน NFT ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือ Rare Pepe Directory ซึ่งมอบให้แก่กบ Pepe โดยที่ NFT ดังกล่าวได้รับการเปิดตัวเมื่อ 5 ปีที่แล้ว CryptoPunks และภาพพิกเซลก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยที่ CryptoPunks ถือเป็นผลงานบล็อกเชนที่มีค่ามากที่สุดในปัจจุบัน

อีกหนึ่งโปรเจ็กต์ของ NFT ที่โด่งดังก็คือ Cryptokitties ซึ่งได้รับการเปิดตัวเมื่อห้าปีก่อน NFT ดังกล่าวเป็นภาพดิจิทัลของแมว แต่ละภาพจะมีตัวระบุที่เฉพาะเจาะจงในบล็อกเชนของ Ethereum นอกจากนี้ ยังมีคอลเลคชัน NFT ที่สร้างขึ้นตามหัวข้อต่างๆ เช่นกัน

การทำงานของ NFT

NFT ได้รับการสร้างขึ้นโดยใช้กระบวนการที่เรียกว่า การทำเหรียญ (Coinage) ในกระบวนการดังกล่าว ข้อมูลของ NFT จะได้รับการเผยแพร่ไปที่บล็อกเชนเพื่อให้เกิดการสร้างบล็อกใหม่ ข้อมูลของ NFT จะได้รับการตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบ (Validator) ในขณะที่สัญญาอัจฉริยะจะระบุความเป็นเจ้าของรวมถึงจัดการความสามารถในการโอน NFT

เมื่อมีการผลิตโทเคน โทเคนจะได้รับตัวระบุพิเศษที่เฉพาะเจาะจงพร้อมด้วยที่อยู่ของบล็อกเชนเพียงที่อยู่เดียว NFT แต่ละรายการมีเจ้าของเป็นของตัวเองในขณะที่ข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของจะได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ

ทำไม NFT ถึงมีความสำคัญ?

เราอาจกล่าวได้ว่า NFT คือก้าวถัดไปในการอัปเดตโครงสร้างพื้นฐานโดยรวมของโลกคริปโตเคอร์เรนซี นอกจากนี้ NFT ยังมอบตลาดดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อสินทรัพย์เชิงกายภาพได้รับการแปลงให้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล คนกลางก็จะหายไป เราไม่ต้องการตัวแทนอีกต่อไป ผู้สร้างสรรค์ผลงานแต่ละคนสามารถเข้าถึงลูกค้าหรือแฟนๆ ได้โดยไม่ต้องผ่านคนกลางอีกต่อไป

นอกจากนี้ เมื่อใช้ NFT เราจะสามารถจัดการกับการระบุวัตถุทางกายภาพต่างๆ ได้ตั้งแต่หนังสือเดินทางไปจนถึงคฤหาสน์ NFT ยังให้สิทธิ์แก่วัตถุที่เฉพาะเจาะจงเช่นกันโดยการสร้างหนังสือรับรองที่เฉพาะเจาะจงในโลกดิจิทัล

ข้อได้เปรียบและข้อเสียเปรียบของ NFT

ข้อได้เปรียบและข้อเสียเปรียบของ NFT มีอะไรบ้าง? ข้อได้เปรียบของ NFT ก็คือการที่เราสามารถคงไว้ซึ่งลิขสิทธิ์แบบเสมือนจริงได้แบบไม่จำกัดเวลา นอกจากนี้ แบรนด์ต่างๆ ยังใช้ NFT ในการมอบโปรแกรมความภักดีต่างๆ ให้แก่ลูกค้า รวมถึงมอบการเข้าถึงโปรโมชันเพื่อการขยายธุรกิจอีกด้วย

NFT ยังช่วยขยายโอกาสทางเศรษฐกิจในส่วนของเกมและระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจดิจิทัลเช่นกัน

อะไรคือข้อเสียเปรียบของ NFT? ในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ยากสำหรับลูกค้าในการจะทราบว่า NFT ที่ตัวเองได้รับเป็นของจริงหรือไม่เนื่องจากมีการทำสำเนา NFT ออกมาเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่มีกลไกทางกฎหมายในการพิสูจน์ว่า NFT เป็นของแท้ ผู้ใช้จึงจะต้องทำความเข้าใจเทคโนโลยีบล็อกเชนพื้นฐานหากต้องการจะสร้างผลิตภัณฑ์ NFT ที่เป็นของตัวเอง

NFT ในโลกจริงและโลกเสมือนจริง

คุณสามารถใช้ NFT ได้ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนจริง ตัวอย่างเช่น ตลาดอสังหาริมทรัพย์สามารถแบ่งออกเป็นหลายส่วน ส่วนหนึ่งอาจตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งในขณะที่ส่วนอื่นอาจอยู่ในพื้นที่พักอาศัย

จากพารามิเตอร์ต่างๆ ที่ดินแต่ละแปลงจะมีความเฉพาะเป็นของตัวเอง มีมูลค่าเป็นของตัวเอง และสามารถเป็น NFT ได้ เราสามารถซื้อขายที่ดินได้ในตลชาดอสังหาริมทรัพย์ในโลกจริงโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการทางราชการที่ไม่จำเป็น ในกรณีดังกล่าว การซื้อและการขายจะสามารถทำได้รวดเร็วขึ้น

ฉันจะซื้อ NFT ได้อย่างไร?

สิ่งที่พึงสังเกตก็คือ NFT จำนวนมากสามารถได้รับการซื้อสำหรับคริปโตเคอร์เรนซีของบล็อกเชนที่ได้รับการออก ตัวอย่างเช่น หากต้องการจะซื้อโทเคนมาตรฐาน ERC-721 ผู้ใช้จะต้องมี ETH อยู่ในวอลเล็ตคริปโตเคอร์เรนซี แพลตฟอร์มต่างๆ จะเสนอให้ซื้อ NFT หรือ NFT ทั้งคอลเลคชัน OpenSea และ Rarible ถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงมากที่สุด แพลตฟอร์มดังกล่าวมีแค็ตตาล็อกของ NFT ในราคาต่างๆ ลูกค้าก็แค่ต้องเลือกผลิตภัณฑ๋ที่ตัวเองชอบ ทำธุรกรรมโดยการจ่ายจำนวนเงินตามที่ระบุ และหลังจากนั้นลูกค้าดังกล่าวก็จะกลายมาเป็นเจ้าของผลงาน NFT ดังกล่าว จำนวนของเว็บไซต์ที่คุณสามารถใช้ในการซื้อ NFT ค่อยๆ เพิ่มขึ้นและกลายมาเป็นเครือข่ายระดับโลก

NFT ปลอดภัยหรือไม่?

เช่นเดียวกับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ NFT เองก็อาจถูกแฮกได้ หากมีการเข้าถึงวอลเล็ตของลูกค้า อาชญากรก็จะสามารถย้ายโทเคนไปที่วอลเล็ตของตัวเองได้

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ว่า หากเว็บไซต์ที่ NFT วางขายอยู่หยุดทำงานกะทันหัน การเข้าถึง NFT ก็จะหายไป รวมถึงความเสี่ยงที่ว่า ลูกค้าจะซื้อสินทรัพย์ NFT ที่เป็น "ของปลอม" มากกว่าที่จะซื้อของจริง

คำว่าทดแทนไม่ได้หมายความว่าอย่างไร?

ก่อนอื่น เราจะต้องบอกก่อนว่าคำว่าทดแทนไม่ได้หมายความว่าอะไร นี่คือแนวคิดที่บอกถึงการแลกเปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์บางอย่าง ตัวอย่างเช่น สกุลเงินหรือสินค้าโภคภัณฑ์ (น้ำมัน)

ในทางกลับกัน คำว่าทดแทนไม่ได้จะหมายความว่าวัตถุชิ้นนั้นไม่สามารถแทนที่ได้โดยวัตถุชิ้นอื่นเนื่องจากวัตถุดังกล่าวมีความเฉพาะตัวโดยธรรมชาติ

วิธีการใช้งาน NFT ในประเทศไทย?

สิ่งที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ ในปัจจุบัน NFT กำลังเป็นที่ต้องการ ไม่ใช่แค่ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลเท่านั้น การใช้งาน NFT ในประเทศไทยค่อนข้างที่จะกว้างและมอบความเป็นไปได้ต่างๆ จำนวนมากสำหรับการใช้งาน ประเทศขนาดใหญ่ต้องการตัวเลือกต่างๆ สำหรับประชากร และต้องการเครื่องมือจำนวนมากสำหรับช่วยเหลือประชาชนในประเทศไทย NFT ให้ประโยชน์แก่ประเทศได้อย่างไร?

อันดับแรก NFT เป็นแหล่งของการลงทุนสำหรับคนไทย อุตสาหกรรม NFT กำลังเริ่มต้นพัฒนา และเป็นที่ชัดเจนว่า ยังคงมีความต้องการโทเคนนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงมีความเป็นไปได้ในการใช้ NFT ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอสำหรับการลงทุน การสะสมราคาที่ดึงดูดใจ การใช้เป็นการสะสมหลักในขณะที่อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีกำลังอยู่ในช่วงขาลงและช่วงของการสะสม

NFT สำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศขนาดใหญ่เป็นเทคนิคสากลสำหรับการโอนการเป็นเจ้าของ หากคุณอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ หรือปัตตานี คุณสามารถทำการขายออนไลน์และโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินหรือวัตถุได้โดยไม่จำเป็นต้องไปดำเนินการด้วยตัวคุณเอง

ศิลปินไทยสามารถใช้ NFT ในการเข้าถึงการทำให้ผลงานของตนเป็นดิจิทัล และขายผลงานดังกล่าวในตลาดระหว่างประเทศได้

บทสรุป

ในขณะนี้ ตลาด NFT หยุดนิ่งในขณะที่อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีอยู่ในระดับทั่วไป อย่างไรก็ตาม NFT จะแผ่ขยายอิทธิพลไปยังภาคส่วนต่างๆ ของเศรษฐกิจและสังคม การนำ NFT ไปใช้กับแวดวงการศึกษา การแพทย์ และโลจิสติกส์จะช่วยให้อุตสาหกรรมดังกล่าวมีความทันสมัยและปลอดภัยจากการปลอมแปลงมากขึ้น

NFT อาจกลายมาเป็นองค์ประกอบหลักฐานของสถานะทางสังคมและรหัสการเข้าถึงสำหรับชุมชนที่มีอภิสิทธิ์พิเศษ ดังนั้น แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความเฉพาะตัวของ NFT แต่ NFT ก็ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจดิจิทัลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว